00:00:05 → 00:00:07 อันนี้เป็น
00:00:07 → 00:00:11 เอ่อแสดงถึงสมองและ
00:00:11 → 00:00:15 เอ่อไขสันหลังนะครับกับเส้นประสาทไแล้วก็
00:00:15 → 00:00:18 เปรียบเทียบว่าเมื่อเป็นเด็กเล็กๆสมองมัน
00:00:19 → 00:00:23 ยังไม่มียากนะครับยิ่งถ้าด้านโน้นเจะเห็น
00:00:23 → 00:00:25 ชัดเลยสมองไม่มี๋สมองไม่มีอย่างจริงเเด็ก
00:00:25 → 00:00:29 แล้วก็ไอ้ไขสั้นหลังยังยาวไม่ตลอดแล้วก็
00:00:29 → 00:00:33 ค่อยๆเปลี่ยนแปรงไปตามลำดับโอสมองเนี่ย
00:00:33 → 00:00:35 เป็นอวัยวะที่ต้องการหลอดเลือดเลือดไป
00:00:35 → 00:00:38 เลี้ยงมากมายต้องการออกซิเจนและอาหารเยอะ
00:00:38 → 00:00:41 เพราะฉะนั้นถ้าเราศึกษาแต่หลอดเลือดอย่าง
00:00:41 → 00:00:45 เดียวนะครับก็คือเอาพลาสติกฉีดเข้าไปใน
00:00:45 → 00:00:49 หลอดเลือดจนเต็มเสร็จแล้วเอาสมนนั้นไปแช่
00:00:49 → 00:00:53 ในด่างด่างก็จะกัดไอ้ไอ้สิ่งที่ไม่ใช่
00:00:53 → 00:00:55 พลาสติกที่อยู่ในหลอดเลือดออกจนหมดกัด
00:00:55 → 00:00:58 เนื้อออกอันนี้จะเห็นจะเห็นหลอดเลือดแดง
00:00:58 → 00:01:02 กับหลอดเลือดดำของสมองเยอะมากครับอันนี้
00:01:02 → 00:01:05 คือหลอดเลือดแดงที่แยกออกเป็นเป็นเส้นๆ
00:01:05 → 00:01:09 ที่จะบอกว่าอยู่ตรงไหนของสมองนะครับแล้ว
00:01:09 → 00:01:11 หลอดเลือดแดงเหล่านี้ถ้าแตกอย่างไอ้ตรง
00:01:11 → 00:01:14 โค้งๆเนี่ยแตกแป๊บเดียวเตอนนี้ได้เรื่อง
00:01:14 → 00:01:17 เลยเพราะว่ามันอยู่ตรงเส้นสำคัญนะครับ
00:01:17 → 00:01:20 อวัยวะของเราก็จะสั่งกไม่ได้ครับอย่างอัน
00:01:20 → 00:01:23 นี้อันนี้ก็เป็นหลอดเลืแดงและหลอดเลืดำนะ
00:01:23 → 00:01:27 ครับตรงนี้เป็นแสดงอันนี้เป็นของชอบของ
00:01:27 → 00:01:31 อาจารย์รสุละนะครับคือการศึกษาเรื่องหลอด
00:01:31 → 00:01:35 เลือดดำที่อยู่รอบๆของไอ้กระดูกสันหลัง
00:01:35 → 00:01:38 ซึ่งเป็นทางติดต่อระหว่างส่วนล่างของร่าง
00:01:38 → 00:01:41 กายขึ้นไปสู่บนยอดบนบนสมองได้เลยครับ
00:01:41 → 00:01:45 ลักษณะเหมือนฟองน้ำมากเลยอันนี้คือตับอ๋อ
00:01:45 → 00:01:48 หอเลแดงในตับนี้เยอะอย่างงี้ดใช่หลอดำใน
00:01:48 → 00:01:51 ตับเยอะอย่างอเอ่อทีนี้ที่เห็นอย่างงี้
00:01:51 → 00:01:56 เนี่ยเพื่อมันเป็นสมมติว่าเราอะไรเข้าไป
00:01:56 → 00:01:58 นะฮะเรากินอาหารเข้าไปมันต้องไปติดอยู่
00:01:58 → 00:02:01 ที่ตับก่อนถึงจะขึ้นไปถึงสสองอืเอาสาธิ
00:02:01 → 00:02:04 เอาก่อนหรือถ้าหายใจอาจจะต้องไปติดอยู่
00:02:04 → 00:02:07 ที่ปอดไม่ให้ขึ้นถึงสมองแต่มันมีช่องทาง
00:02:07 → 00:02:10 อันหนึ่งเหมือนทางลัดที่พาอะไรก็แล้วแต่
00:02:10 → 00:02:13 จากข้างล่างขึ้นไปสู่สมองได้โดยตรงอันนี้
00:02:13 → 00:02:16 เป็นเป็นช่องทางอันหนึ่งที่ตอบคำถามว่า
00:02:16 → 00:02:20 ทำไมเป็นโรคที่ในอุ้มเชิงกรานแล้วมันลาม
00:02:20 → 00:02:22 ไปสมองได้เลย
00:02:22 → 00:02:28 อือครับตรงนี้เป็น Collection ของหัวใจ
00:02:28 → 00:02:33 ที่ผิดปกติแบบต่างๆนะครับเรามีหลอดเลือด
00:02:33 → 00:02:37 ที่ผิดปกติที่เกินที่ขาดอะไรหลายวิหลาย
00:02:38 → 00:02:43 แบบมากซึ่งพบได้น้อยมากนะครับผมจะชี้ให้
00:02:43 → 00:02:46 ดูที่พอเข้าใจได้ง่ายๆสัก 2 อันนะครับ
00:02:46 → 00:02:52 ครับอันนี้เป็นคนที่มีเส้นเลือดแดงใหญ่ 2
00:02:52 → 00:02:57 เส้นขล่างสุด้วนะอาจารยครับใช่ครับตรงนี้
00:02:57 → 00:03:00 นะครับเป็น
00:03:00 → 00:03:03 คนที่มีหลอดเลือดแดงใหญ่อยู่ทางขวาแทนที่
00:03:03 → 00:03:05 จะปกติอยู่ทาง
00:03:05 → 00:03:09 ซ้ายผลที่ตามมาคืออะไรอาจารย์อะไรนะถ้า
00:03:09 → 00:03:13 เกิดหลอดเรื้อแดงอยู่ใหญ่สเอยู่จนแก่อ่า
00:03:13 → 00:03:17 นี่เ้าอยู่จนแกก่แปลว่าไม่มีอาการอ๋อไม่
00:03:17 → 00:03:21 มีอาการก็ได้ครับได้ครับทางด้านนี้จะให้
00:03:21 → 00:03:25 ดูเปรียบเทียบนะครับอันนี้เป็นของที่ทำ
00:03:25 → 00:03:27 สมัยศาสดาจารย์คลองดอน
00:03:27 → 00:03:33 อันนี้เป็นของที่ทำสมัยคุณพ่อนะฮะไอ้ชิ้น
00:03:33 → 00:03:37 นี้เนี่ยก็คล้ายกันแต่ว่าใส่อยู่ในกล่อง
00:03:37 → 00:03:38 ปลาสติก
00:03:38 → 00:03:44 แล้วก็ทาด้วยสีที่ทาบ้านคือ lacker brush
00:03:44 → 00:03:50 นะครับส่วนอันนี้เป็น albuminous P ที่
00:03:50 → 00:03:53 บอกว่าศาสนาจารย์คงดอนใช้ที่บอกสีสวยมาก
00:03:53 → 00:03:55 นะฮะ
00:03:55 → 00:03:58 2472 ยังสวยจนบัด
00:03:58 → 00:04:02 นี้แต่ว่าต้องระวังเพราะน้ำยามันระเหยไม่
00:04:02 → 00:04:04 ให้น้ำน้ำยาระเหยต้องอยู่ในแอลกอฮอล์
00:04:04 → 00:04:07 อย่างเดียวแอลกอฮอล์อย่างเดียวนะครับจได้
00:04:07 → 00:04:11 อันนี้นะครับความผิดปกติที่ไม่น่าจะอยู่
00:04:11 → 00:04:14 ได้นานแต่เด็กคนนี้อายุ 17 นะครับตัวนิด
00:04:14 → 00:04:18 เดียวมีหัวใจห้องเดียวถ้ามองลงไปภในนี้
00:04:18 → 00:04:20 มันโหว่ทะลุถึงกันหมดนะครับ
00:04:20 → 00:04:24 โอมีความผิดปกติประมาณ 10 อย่างทั้งร่าง
00:04:24 → 00:04:28 กายแต่เก็อยู่ได้พอสมควรนะครับส่วนอันนี้
00:04:28 → 00:04:33 เป็นสิ่งที่พบในห้องปฏิบัติการเหมือนกัน
00:04:33 → 00:04:37 พอนักเรียนเปิดไปแล้วก็หาลำไส้เล็กไม่เจอ
00:04:37 → 00:04:40 ปรากฏว่ามันมุดไปซ่อนอยู่ข้าง
00:04:40 → 00:04:44 ล่างซ่อนอยู่ข้างในเพราะฉะนั้นความผิด
00:04:44 → 00:04:47 ปกติที่เห็นกับอาการมันไม่จำเป็นต้องไป
00:04:47 → 00:04:49 ด้วยกันก็ได้ถ้าเขาอยู่จนกระทั่งโตมาให้
00:04:49 → 00:04:54 เราเจอในห้องชำแหละตบแปลว่าเอยู่มามี
00:04:54 → 00:04:59 อมีหลายอันซึ่งเป็นของที่ถือว่ายากที่สุด
00:04:59 → 00:05:03 เพราะว่าอาจารย์ชำแหละจนเห็นไอ้เอ็นของ
00:05:03 → 00:05:07 กล้ามเนื้อของข้างในหูซึ่งมีขนาดโตเท่า
00:05:07 → 00:05:10 กับเส้นผมอารยครับแล้วปลาฉลามเกี่ยวอะไร
00:05:10 → 00:05:12 ด้วยอาจารย์เอ่อเพื่อเปรียบเทียบดูว่าหู
00:05:12 → 00:05:17 ของฉลามที่มีไอ้สีเหลืองสีฮะนั่นน่ะมันมี
00:05:17 → 00:05:21 ในายคนอย่างไรเปรียบเทียบกับคนโอโอมีนี่
00:05:21 → 00:05:24 ไงเหมือนกันเลยนี่ครับใช่ครับใช่ครับใช่
00:05:24 → 00:05:28 ครับอันนั้นคือเิ circular Canal มีหน้า
00:05:28 → 00:05:31 ที่ไว้สำหรับรับรู้ Position ถ้าไม่มีไอ้
00:05:31 → 00:05:35 นี่ฉลามก็หนไว้ไม่ได้ที่จะอต้องรู้
00:05:35 → 00:05:36 Position ต่อการทรงตัวของมนุษย์เหมือน
00:05:36 → 00:05:40 กันใช่ครับ้ามาทางด้านนี้นะครับความผิด
00:05:41 → 00:05:44 ปกติตั้งแต่เกิดนั้นมีได้ทั้งในคนและใน
00:05:44 → 00:05:48 สัตว์เหมือนกันก็ได้ยกตัวอย่างเช่นที่เขา
00:05:48 → 00:05:52 ไปไหว้กราบขอขอหวยกันน่ะใช่มยอย่างเงี้
00:05:52 → 00:05:58 ออกมาใช่มั้ยหมูหมูหน้าเหมือนช้างเพราะ
00:05:58 → 00:06:03 ว่ามีจมูกมูกเป็นงวงออกมาครับอันนี้คนมี
00:06:03 → 00:06:08 จมูกอยู่เหนือตาตาเดียวมีจมูกเป็นเป็นงวง
00:06:08 → 00:06:12 ออกมางงอันนี้ความผิดปกติเนื่องจากมัน
00:06:12 → 00:06:15 สร้างออกมาผิดเวลาทำให้ส่วนลูกตาไปรวมกัน
00:06:15 → 00:06:19 อยู่ใต้ใต้จมูกนะครับแต่พวกนี้ก็ตายไม่
00:06:19 → 00:06:23 เป็นไรนะคือเเไม่ compatible To Life
00:06:23 → 00:06:27 นะครับเอ่อเค้าไม่เไม่ไม่สามารถจะกินได้
00:06:27 → 00:06:31 ไม่มีอะไรได้เค้าก็ตายนะฮอถ้าอยู่ไปก็แต่
00:06:31 → 00:06:34 ว่าก็เพราะฉะนั้นอย่างงี้เเรียก osis
00:06:35 → 00:06:38 osis คืองวงแล้วก็ไอ้ไอ้ตาเดียวนี้เ
00:06:38 → 00:06:42 เรียกไซคอคือยักษ์ที่มีตาเดียวนะครับครับ
00:06:42 → 00:06:46 ตรงนี้คือกะเทยกะเทยทั้ง 2 อันกะเทยคือ
00:06:46 → 00:06:50 อะไรอาจารย์กะเทยคือคนหรือสัตว์ที่บอกเพศ
00:06:50 → 00:06:52 ไม่ได้สเพศแน่
00:06:52 → 00:06:58 ชัดเพศมี 4 ระดับคือเพศทางพันธุกรรมได้
00:06:58 → 00:07:01 แก่ยีนที่กำหนดให้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
00:07:01 → 00:07:05 ครับเมื่อมียีนผู้ชายกำหนดแล้วก็จะสร้าง
00:07:05 → 00:07:11 ให้ต่อมเพศต่อมเพศกลายเป็นอันทะหรือรัง
00:07:11 → 00:07:17 ไข่จากนั้นก็ไปถึงระดับของเอ่อเพศทางกาย
00:07:17 → 00:07:21 วิภาคทางมหากายวิภาคคือไอ้สิ่งที่เราเห็น
00:07:21 → 00:07:24 น่ะถ้าผู้หญิงก็มีเต้านมมีช่องคลอดมีอะไร
00:07:24 → 00:07:29 ผู้ชายก็มีมีอวัยวะเพศมีถุงอันทะแล้วเพศ
00:07:29 → 00:07:34 ลำดับที่ 4 คือเพศทางจิตอ๋อจิตเพศไม่ใช่
00:07:34 → 00:07:38 เพศแลทางจิตคือความจำได้หมายรู้ว่าตัวเอง
00:07:38 → 00:07:41 เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงอืไอ้ที่ผิดๆเดินๆ
00:07:41 → 00:07:43 กันแล้วเรียกกะเทยไม่ใช่เป็นความผิดปกติ
00:07:43 → 00:07:47 ทางจิตคือเป็นผู้ชายแต่คิดว่าตัวเองเป็น
00:07:47 → 00:07:50 ผู้หญิงเป็นผู้หญิงแต่คิดว่าตัวเองเป็น
00:07:50 → 00:07:53 ผู้ชายอนี้คือเป็นความผิดปกติทางเพศทาง
00:07:53 → 00:07:58 จิตนะครับ psychological SE ทีนี้ถ้า 3
00:07:58 → 00:08:01 ประเภทและ 3 เพศ 3 ระดับ
00:08:01 → 00:08:06 แรกมันมี 2 เพศก็เรียกว่ากะเทยแท้ๆคือ
00:08:06 → 00:08:09 กะเทยแท้ๆคือคนที่มีทั้งเพศชายและเพศหญิง
00:08:09 → 00:08:14 อยู่ในร่างเดียวกันมียีนผู้ชายและผู้หญิง
00:08:14 → 00:08:18 อยู่ด้วยกันคือมี 46 XY กับ 46 xx อยู่
00:08:18 → 00:08:21 ในร่างเดียวกันนานๆจะเจอสักคนนึงประเภท
00:08:21 → 00:08:26 ที่ 2 คือเพศที่เรียกว่ากะเทยเทียมคือเพศ
00:08:26 → 00:08:30 ทางพันธุกรรมกับเพศทางกายวิภาคมันไม่ถูก
00:08:30 → 00:08:33 ต้องกันเริ่มต้นเป็นผู้ชายแต่สิ่งที่แสดง
00:08:33 → 00:08:36 ออกมามันเป็นผู้หญิงหรือเริ่มต้นเพศเป็น
00:08:36 → 00:08:39 ผู้หญิงแต่สิ่งที่มองเห็นนึกว่าผู้ชาย
00:08:39 → 00:08:42 ครับตัวอย่างเช่นอันนี้มองตรงนี้เราก็นึก
00:08:42 → 00:08:45 ว่าผู้ชายใช่มั้ยครับแต่ว่าดูไปอันนี้มัน
00:08:45 → 00:08:49 มีรังไข่ยมีมวด
00:08:49 → 00:08:56 ลูกปรากฏว่ามันมีต่อมเหนือไตคือต่อมานี้
00:08:56 → 00:09:01 โตผิดปกติต่อมานี้ทราสร้างฮอร์โมนของเพศ
00:09:01 → 00:09:05 ชายเพศลำดับที่ 3 มันมองเหมือนผู้ชายแต่
00:09:05 → 00:09:07 เพศลำดับแรกมันเป็นผู้
00:09:07 → 00:09:10 หญิงเพราะฉะนั้นการที่ไล่เป็นลำดับเลยนะ
00:09:10 → 00:09:12 ครับอาจารย์ละอดการที่จะตัดสินว่าเป็นผู้
00:09:12 → 00:09:17 ชายหรือผู้หญิงจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญร่วม
00:09:17 → 00:09:21 กันตัดสินนะครับส่วนไอความผิดปกติทางเพศ
00:09:21 → 00:09:28 ทางจิตนั้นก็คือที่เราเห็นสวยๆเ่ออะไรนะ
00:09:28 → 00:09:30 เราคือสาวประเภท 3 ที่ผ่าตัดแล้วอะไรพวก
00:09:30 → 00:09:34 นั้นอ่าครับแต่ที่สำคัญเพศทางจิตนั้นมี
00:09:34 → 00:09:38 ความสำคัญนะครับถ้าคุณเลี้ยงลูกคุณให้ผิด
00:09:38 → 00:09:41 เพศสำคัญเพศตัวเองผิดเกิน 5 ขวบแล้วคุณจะ
00:09:41 → 00:09:46 ลำบากเพราะเขาจะไม่กลับอืเเกิดความเข้าใจ
00:09:46 → 00:09:49 ว่าผู้ชายที่เข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิง
00:09:49 → 00:09:52 แล้วเี่เขก็อยากเป็นผู้หญิงตอนนี้ลำบากะ
00:09:52 → 00:09:55 แต่การรักษาจะต้องเป็นไปตามความต้องการ
00:09:55 → 00:09:59 คือเพศทางจิตมากกว่าที่มันเกิดขึ้นบ่อยๆ
00:09:59 → 00:10:03 ก็คือพ่อแม่อยากได้ลูกผู้หญิงอ๋อมีลูกผู้
00:10:03 → 00:10:07 ชายแล้วหน้าตาสวยก็จับมันแต่งเป็นใส่
00:10:07 → 00:10:10 กระโปรงนี่พ่อแม่อย่าทำต้องรักษาที่พ่อ
00:10:10 → 00:10:13 แม่แล้วครับ้านั้นครับทีนี้ที่สำคัญก็คือ
00:10:13 → 00:10:17 ถ้าเผื่อโตแล้วเเป็นกะเทยเช่นอย่างเงี้ย
00:10:17 → 00:10:21 นะฮะสมมุติว่าครับเขาถูกเลี้ยงมาเป็นผู้
00:10:21 → 00:10:25 ชายแล้วจิตใจเขาต้องการเป็นผู้ชายสิ่งที่
00:10:25 → 00:10:28 หมอจะทำให้ได้ก็คือตัดสิ่งที่เป็นผู้หญิง
00:10:28 → 00:10:33 ทิ้งให้หมดอือืถึงบอกแล้วไงเจำได้หมายรู้
00:10:33 → 00:10:36 ตั้งแต่ว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเมื่อ
00:10:36 → 00:10:38 เขาอายุ 5 ขวบเพราะฉะนั้นเลี้ยงลูกเล็กๆ
00:10:38 → 00:10:40 อย่าไปทำให้เขาผิด
00:10:40 → 00:10:44 เพศมีใช่มั้ยไม่ใช่ว่าเด็กนะฮะเป็นที่พ่อ
00:10:44 → 00:10:44 แม่
00:10:44 → 00:10:48 โอเคอันนี้เป็นของที่พบยากที่สุดก็เป็น
00:10:48 → 00:10:53 แฝดชนิดที่ตัวน้องเจริญในช่องท้องของตัว
00:10:53 → 00:10:58 พี่คือมันแฝดกันแต่ระหว่างเจริญเนี่ยมัน
00:10:58 → 00:11:00 ก็ยังไม่ปิดเท้องไม่ปิดก็เลยเข้าไปไอ้ตัว
00:11:00 → 00:11:03 เล็กมันเข้าไปอยู่ในตัวพี่แล้วเด็กเกิดมา
00:11:03 → 00:11:07 เพูอย่างรายนี้รู้ประวัติเพราะว่าพี่ชาย
00:11:07 → 00:11:11 อายุ 2 ขวบกว่าะก็เริ่มมีอาการคือมีก้อน
00:11:11 → 00:11:16 ในท้องก็ต้องผ่าตัดเปิดไปก็เจอก้อนเค้าก็
00:11:16 → 00:11:20 ดึงเก็เปิดแล้วก็ดึงออกอ้าวกลายเป็นตัว
00:11:20 → 00:11:24 ซึ่งมีแขนมีขาแต่ไม่มีหัวมีหัวใจก็ไม่มี
00:11:24 → 00:11:26 อาการอะไรเพราะอย่างงี้พอเอาออกแล้วพี่ก็
00:11:26 → 00:11:29 เรียบร้อยนะครับก็ดำเนินชีวิตต่อไปได้
00:11:29 → 00:11:32 แล้วน้องก็เสียชีวิตตั้งแต่โอ๊ยเเอาดึง
00:11:32 → 00:11:35 ออกมาเค้าก็ตายเเเป็นกาฝากหมายถึงว่าตอน
00:11:35 → 00:11:37 อยู่ในท้องยังมีชีวิตอยู่เ้าเป็นกาฝากของ
00:11:37 → 00:11:41 พี่ถ้ามีลูกแฝดลูกแฝดนี่มีอยู่ 2 เพ
00:11:41 → 00:11:46 ประเภทคือแฝดไข่ใบเดียวกับแฝดไข่เกินกว่า
00:11:46 → 00:11:49 1 ใบใบแฝดไข่ใบเดียวเนี่ยเมื่อมันผสม
00:11:49 → 00:11:54 แล้วก็ได้ตัวอ่อนได้เซลล์ซึ่งผสมแล้วแล้ว
00:11:54 → 00:11:56 ก็เจริญแบ่งตัวจาก 1 เป็น 2 2 เป็น 4 4
00:11:56 → 00:11:59 เป็น 8 ไปเรื่อยก็ค่อยๆเจริญเป็นร่างมัน
00:11:59 → 00:12:03 มนุษย์ 1 ร่างแต่ขณะที่เจริญแบ่งตัวนี้ 2
00:12:03 → 00:12:07 ร่าง 2 กลุ่มนี้อาจจะหลุดจากกันไปโดยเด็ด
00:12:07 → 00:12:11 ขาดในขณะที่ทั้ง 2 กลุ่มยังไม่มีความ
00:12:11 → 00:12:14 สามารถที่จะเจริญไปเป็นร่างได้ 2 ร่างก็
00:12:14 → 00:12:19 ทำให้เกิดเด็กที่เกิดเป็นแฝดชนิดโคติทน
00:12:19 → 00:12:23 คือไข่ใบเดียวเขึ้นมาหลุดจากกันและต่างคน
00:12:23 → 00:12:28 ต่างไปเจริญก็ไปเป็นแฝดซึ่งเหมือนกันทุก
00:12:28 → 00:12:31 ประการครับนะฮะเรียกว่าแฝดเหมือนทนี้การ
00:12:31 → 00:12:34 หลุดออกไปบางครั้งก็หลุดไม่เด็ดขาดเช่น
00:12:34 → 00:12:38 ยังติดอยู่ที่ด้านหลังติดอยู่ที่หางติด
00:12:38 → 00:12:42 อยู่ที่หัวเป็นต้นติดอยู่ที่ตรงกลางก็ทำ
00:12:42 → 00:12:46 ให้เกิดแฝดติดกันที่เรียกว่าคอนจอยทวิน
00:12:46 → 00:12:49 แต่ภาษาทั่วไปจะเรียกว่าไมิ
00:12:49 → 00:12:53 ทวินเพราะว่าแฝดติดกันซึ่งมีชื่อเสียงที่
00:12:53 → 00:12:56 สุดและรู้จักกันทั่วโลกนั้นเป็นคนไทยอิ
00:12:56 → 00:13:01 คืออินจันนี่นะครับอ
00:13:01 → 00:13:42 [เพลง]
00:13:42 → 00:13:46 ในนี้จะมีเรื่องของกระดูกทั้งหมดนะฮะแยก
00:13:46 → 00:13:50 กระดูกเป็นชิ้นกระโหลกเป็นชิ้นกระโหลกตัด
00:13:50 → 00:13:54 เป็นส่วนเป็นกระดูกแต่ละส่วนต่างๆกระดูก
00:13:54 → 00:13:58 เด็กกระดูกผู้ใหญ่นะครับจารครับผมสงสัย
00:13:58 → 00:14:00 ครับอย่างมันกระดูกมนุษย์จริงๆคหัวกะโหลก
00:14:00 → 00:14:02 เงี้ครับมันจะเป็นทรงงนี้แล้วมีรอยแตกๆ
00:14:02 → 00:14:05 แบบนี้อยู่แล้วเอ่อไม่ใช่รอยแตกอันนั้น
00:14:05 → 00:14:08 เป็นรอยเป็นเ้าเรียกว่าไบสตอนที่ตอนเรา
00:14:08 → 00:14:10 เกิดแล้วสมองที่บอกสมองเเพิ่งมาติดตอน
00:14:10 → 00:14:13 นั้นอกะโหลกเนี่ยมันก็เป็นอย่างงี้มันมัน
00:14:13 → 00:14:17 จะติดกันด้วยรอยประสานที่เรียกว่าซูเจอร์
00:14:17 → 00:14:21 เป็นข้อต่อชนิดหนึ่งซึ่งขยับไม่ได้แต่
00:14:21 → 00:14:25 เด็กเล็กๆเนี่ยมันมันยังไอ้ๆรอยต่อมันยัง
00:14:25 → 00:14:28 ไม่ประสานไม่ดีมันสามารถขยับได้บ้างออ
00:14:28 → 00:14:32 เวลาหลูกอเด็กๆเต้นตึ๊บๆๆๆใช่ใช่ๆอันนั้น
00:14:32 → 00:14:37 จะติดเมื่อ 2 ขวบถ้าติดเร็วเกินไปก็บางที
00:14:37 → 00:14:38 นะหน้าตาจะ
00:14:38 → 00:14:42 ประหลาดตาถลนหัวโตอะไรก็แล้วแต่มันต้อง
00:14:42 → 00:14:45 จังหวะที่ถูกต้องนะครับกลดูถ้าถ้าหน้า
00:14:45 → 00:14:47 อย่างผมประหลาดป่ะครับอาจารย์ถ้าประหลาด
00:14:47 → 00:14:49 แสดงว่าลูกผมยังไม่ติดติดเรประดไม่
00:14:49 → 00:14:53 ประหลาดโอเอหน้าตาดูได้
00:14:53 → 00:14:56 โอเคเหมาะสมจะเป็นนักเรียนมัธยมสมัยก่อน
00:14:57 → 00:15:00 ยิผมถูกต้องตามระเบียบเยี่ยมเลยอาจารย์
00:15:00 → 00:15:05 ชอบระเบียบแน่นอนเลยต่อครับอาจารย์อันนี้
00:15:05 → 00:15:10 คือแบบของลักษณะกะโหลกชนิดต่างๆอืที่พบ
00:15:11 → 00:15:13 ที่จริงเราก็พบทุกชนิดนนะครับแต่กะโหลก
00:15:13 → 00:15:16 ยาวแบบนี้ไม่พบในคนไทยกะโหลกมันมีรูปร่าง
00:15:16 → 00:15:21 แบบต่างๆกันเป็นแบบเอโอยเฟช็อตวอยเอยอะไร
00:15:21 → 00:15:24 ต่างๆยังผมนะหัวกระโหลกทรงไหนอาจารย์ยาว
00:15:24 → 00:15:27 นิดหน่อยมั้ไม่รู้ยาวกะโหลกสวยใช้ได้หมาอ
00:15:27 → 00:15:30 จะจะโชว์กะโหลกครับเดี๋ยวผมบริจาคข้าง
00:15:30 → 00:15:33 ล่างหน่อยครับอาจารย์อ่าเดี๋ยวลงไปข้าง
00:15:33 → 00:15:35 ล่างช่วยให้เค้าเซ็นชื่อด้วยเนาะได้ครับ
00:15:35 → 00:15:39 เดี๋ยวผมบริจาคร่างกายเลยครับะ
00:15:39 → 00:15:42 เอ่อทั้งหมดที่แขวนอยู่นี่นะครับเป็นคน
00:15:42 → 00:15:48 ไทยร่างนี้เป็นผู้หญิงไทยปกติร่างนี้เป็น
00:15:48 → 00:15:52 ผู้ชายไทยปกติผู้หญิงไทยปกติก็สูงประมาณ
00:15:52 → 00:15:57 155 ซมผู้ชายก็สูงประมาณ 168 ซมนะครับ
00:15:57 → 00:16:00 เป็นปกติในสมัยก่อนเดี๋ยวนี้อาจจะสูงขึ้น
00:16:01 → 00:16:05 นิดหน่อยแต่ไม่มากเท่าไหร่นะฮะอันนี้เป็น
00:16:05 → 00:16:09 สมัยต้องเรียกคนแคะ The waris นะครับ
00:16:09 → 00:16:13 ส่วนอันนี้ก็คนไทยเหมือนกันเป็น
00:16:13 → 00:16:19 ไิก็คือคนที่มีต่อมที่สร้างไอ้โสฮอร์โมน
00:16:19 → 00:16:22 มีโสฮอร์โมนมากเกินไปนะครับมากเกิคนนี้
00:16:22 → 00:16:25 เขาเสียท่านเสียเมื่ออายุ 20 กว่าๆบวช
00:16:25 → 00:16:29 เป็นพระอยู่ชื่อเหล็ก
00:16:29 → 00:16:33 พลระเล็กแต่ตัวใหญ่มากเวลาเกิดนี่คงจะตัว
00:16:33 → 00:16:35 เล็กนะครับอันนี้เความจริงอันนี้พบได้ยาก
00:16:35 → 00:16:40 มากในเมืองไทยกระูกก็คือเป็นโรคกระดูก
00:16:40 → 00:16:44 อ่อนคนไทยไม่ค่อยเป็นิตคือโรคกระดูกอ่อน
00:16:44 → 00:16:51 เพราะเรามีแสงแดดอืคือถ้าไม่ได้วิตามินดี
00:16:51 → 00:16:54 ก็ต้องได้นมไม่ได้ทั้งวิตามินดีไม่ได้
00:16:54 → 00:16:58 ทั้งนมแต่ถ้าเรามีแดดแสงแดดก็จะช่วยสร้าง
00:16:58 → 00:17:02 วิจะมีเพราะนั้นคนไทยไม่ค่อยมีทั้งๆที่คน
00:17:02 → 00:17:06 ไทยกินนมไม่ค่อยได้ครับนะฮะแต่คนนี้เป็น
00:17:06 → 00:17:10 โรคทางพันธุกรรมที่กระดูกไม่สร้างให้ส
00:17:10 → 00:17:14 สมบูรณ์จะเปราะและหักง่ายื่อ osteogenesis
00:17:14 → 00:17:17 imperfect เคกระดูกไม่สามารถจะรับแม้
00:17:17 → 00:17:20 กระทั่งน้ำหนักของตัวเองได้ลุกขึ้นก็หัก
00:17:20 → 00:17:23 หักแล้วติดติดแล้วหักเพราะฉะนั้นก็คดไป
00:17:23 → 00:17:27 หมดท่านผู้นี้เป็นคนที่ 2 ที่บริจาคร่าง
00:17:27 → 00:17:31 กายให้กายวิพาเมื่อ
00:17:31 → 00:17:34 2477 78 อะไรเหล่าๆนั้นนะฮะเดี๋ยวจะให้
00:17:34 → 00:17:37 ดูท่านแรกที่บริจาคร่างกาย
00:17:38 → 00:17:42 เอ่อที่เห็นอันนี้คนสำคัญท่านผู้นี้รู้
00:17:42 → 00:17:43 จัก
00:17:43 → 00:17:46 มั้ยพระยาอุปกิจ
00:17:46 → 00:17:51 ศิลปสารคนที่สอนวิชาคนที่เขียนตำรา
00:17:51 → 00:17:55 ไวยากรณ์ไทยอัครวิถีวจีวิภาควากยสัมพันธ์
00:17:55 → 00:17:59 คนที่คิดคำว่าสวัสดีให้ใช้อ่ะ
00:17:59 → 00:18:03 โอท่านอาจารย์เจ้าคุณเป็นคนแรกที่บริจาค
00:18:03 → 00:18:08 ร่างกายให้ไว้ใช้เรียนเนี่ยเจ้าของคำว่า
00:18:08 → 00:18:10 ฉันเป็นครูมาตลอดชีวิตและตายก็จะเป็นครู
00:18:10 → 00:18:14 อีกนะฮะนี้ถ้าไล่มาตามนี้จะมีแต่บุคคล
00:18:14 → 00:18:19 สำคัญทั้งนั้นท่านนี้คือพญาลาภพิพัฒน์
00:18:19 → 00:18:22 เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
00:18:22 → 00:18:26 ศึกษาธิการหลวงวิฆเนศประสิทธิ์วิทเป็น
00:18:26 → 00:18:30 ศิษย์กล่าวศิริราชคนที่ 1 คือคนแรกที่จบ
00:18:30 → 00:18:32 แพทย์จากศิริราชเมื่อ
00:18:32 → 00:18:37 2435 อาจารย์หมอสันศรีเพ็ญเป็น
00:18:37 → 00:18:41 เอ่อศาสตราจารย์สูติศาสตร์นะฮะท่านผู้นี้
00:18:41 → 00:18:43 ก็เป็นศิษย์
00:18:43 → 00:18:47 เกล่าศาสตราจารย์พระอพันตราพาพิศานี่
00:18:47 → 00:18:51 เป็นอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ราชพยาบาลมี
00:18:51 → 00:18:55 รูปอยู่ข้างล่างด้วยนะครับคนนี้คือ
00:18:55 → 00:18:58 อาจารย์ขุนกายวิพา
00:18:58 → 00:19:00 พี่
00:19:00 → 00:19:23 [เพลง]
00:19:23 → 00:19:25 ศา
00:19:25 → 00:19:29 โอ้โหวันนี้เป็นการดูพิพิธภัณฑ์ที่สำหรับ
00:19:29 → 00:19:32 ผมนะครับครั้งแรกในชีวิตที่ดูอย่างตั้งใจ
00:19:32 → 00:19:35 จริงๆขอบพระคุณอาจารย์สัใจมากนะครับที่
00:19:35 → 00:19:37 วันนี้พามาชมประวัติศาสตร์สำหรับอาจารย์
00:19:37 → 00:19:40 ครับอยากจะฝากอะไรถึงเยาวชนถึงบุคคลทั่ว
00:19:40 → 00:19:44 ไปที่จะมาชมพิพิธภัณฑ์ที่นี่ครับก็ภาค
00:19:44 → 00:19:47 วิชาการวิภาคศาสตร์มีความยินดีนะครับแล้ว
00:19:47 → 00:19:52 ก็เต็มใจอยากจะให้ประชาชนชาวไทยและเด็ก
00:19:52 → 00:19:55 นักเรียนของเรามาดูมากขึ้นถ้าดู
00:19:55 → 00:19:57 พิพิธภัณฑ์ด้วยความตั้งใจเราจะได้ความรู้
00:19:57 → 00:20:00 เพิ่มขึึ้นตลอดเวลาไม่ใช่พยุทธภัณฑ์แห่ง
00:20:00 → 00:20:03 นี้แห่งเดียววันนี้ขอบพระคุณอาจารย์สนใจ
00:20:03 → 00:20:05 แสงวิเชียรมากนะครับขอบคุณครับขอและนี่
00:20:05 → 00:20:08 คือตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ของติดกาวิพาก
00:20:08 → 00:20:10 สาตนะครับสำหรับคุณผู้ชมครับนี่คือเรื่อง
00:20:10 → 00:20:12 ราวทั้งหมดของศิริราช 360 องศานะครับติด
00:20:12 → 00:20:15 ตามว่าตอนหน้าจะเป็นอย่างไรรับรองว่าหมุน
00:20:15 → 00:20:18 ครบ 360 องศาแน่นอนสำหรับประกาครับวันนี้
00:20:18 → 00:20:22 ลาไปก่อนสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:20:22 → 00:20:57 [เพลง]
00:20:57 → 00:20:59 เแ
00:20:59 → 00:21:19 [เพลง]