00:00:01 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:04 → 00:00:06 You're listening to Sad X Channel
00:00:06 → 00:00:07 podcast
00:00:07 → 00:00:10 >> สวัสดีครับและนี่คือรายการพcastสุขภาพดี
00:00:10 → 00:00:13 ชีวิตดีสร้างได้พื้นที่แบ่งปันความรู้
00:00:14 → 00:00:20 สำหรับคนรักสุขภาพทุกท่าน
00:00:20 → 00:00:23 ผู้ฟังครับเคยเจอปัญหานี้บ้างไหมครับ
00:00:23 → 00:00:26 ปัสสาวะบ่อยผิดปกติต้องลุกเข้าห้องน้ำ
00:00:26 → 00:00:30 กลางคืนหลายรอบจนพักผ่อนไม่เพียงพอ
00:00:30 → 00:00:33 หลายคนอาจคิดทันทีว่านี่เรากำลังเป็นเบา
00:00:33 → 00:00:36 หวานหรือเปล่าแต่จริงๆแล้วยังมีอีกหนึ่ง
00:00:36 → 00:00:39 โรคที่อาการคล้ายกันมากแต่ไม่เกี่ยวข้อง
00:00:39 → 00:00:44 กับน้ำตาลเลยนั่นคือโรคเบาจืดโรคนี้แม้จะ
00:00:44 → 00:00:48 พบไม่บ่อยแต่หากละเลยไปก็อาจทำให้ร่างกาย
00:00:48 → 00:00:51 ขาดน้ำเกิดภาวะเกลือแร่ไม่สมดุลและส่งผล
00:00:51 → 00:00:55 ร้ายแรงต่อสุขภาพได้วันนี้เราจะมาทำความ
00:00:55 → 00:01:00 รู้จักโรคนี้กันครับ 1 โรคเบาจืดคืออะไร
00:01:00 → 00:01:03 โรคเบาจืดหรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า
00:01:03 → 00:01:06 diabetis incipidus นั้นไม่ใช่โรคเบา
00:01:06 → 00:01:09 หวานอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดนะครับมัน
00:01:09 → 00:01:12 เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมสมดุล
00:01:13 → 00:01:16 ของน้ำได้อย่างปกติส่งผลให้ไตขับน้ำออกมา
00:01:16 → 00:01:20 มากเกินไปจนทำให้คุณปัสสาวะบ่อยและปริมาณ
00:01:20 → 00:01:24 มากผิดปกติในขณะที่คนทั่วไปปัสสาวะประมาณ
00:01:24 → 00:01:28 1-2 ลิตรต่อวันแต่ผู้ที่เป็นโรคนี้บาง
00:01:28 → 00:01:31 อาจปัสสาวะได้หลายฤทธิ์เลยทีเดียวครับ
00:01:31 → 00:01:34 ซึ่งทำให้ร่างกายเสี่ยงขาดน้ำแม้จะดื่ม
00:01:34 → 00:01:38 น้ำมากก็ตามสาเหตุหลักมาจากความผิดปกติ
00:01:38 → 00:01:42 ของฮอร์โมนแอนตี้ยูรติหรือ ADH ซึ่งผลิต
00:01:42 → 00:01:45 จากสมองส่วนไฮโปทาัสและเก็บไว้ที่ต่อมใต้
00:01:45 → 00:01:49 สมองฮอร์โมนนี้มีหน้าที่สั่งให้ไตดูดซึม
00:01:49 → 00:01:52 น้ำกลับเข้าสู่ร่างกายถ้าฮอร์โมนนี้ผลิต
00:01:52 → 00:01:55 น้อยหรือทำงานผิดปกติร่างกายก็จะสูญเสีย
00:01:55 → 00:01:59 น้ำไปอย่างรวดเร็วครับโรคพวกนี้พบได้น้อย
00:01:59 → 00:02:02 แต่สามารถเกิดได้ในทุกวัยโดยเฉพาะวัยทำ
00:02:02 → 00:02:05 งานที่อาจเกิดจากความเครียดการบาดเจ็บ
00:02:05 → 00:02:08 หรือแม้แต่ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดและใน
00:02:08 → 00:02:11 วัยสูงอายุที่ระบบฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยน
00:02:11 → 00:02:15 แปลง 2 โรคเบาจืดมีกี่ประเภทและเกิดจาก
00:02:16 → 00:02:19 อะไรสาเหตุของโรคเบาจืดนั้นแบ่งออกได้
00:02:19 → 00:02:22 เป็น 4 ประเภทหลักๆซึ่งแต่ละประเภทก็มี
00:02:22 → 00:02:25 ความแตกต่างกันไปครับประเภทแรกคือโรคเบา
00:02:25 → 00:02:28 จืดจากสมองหรือเซ็นทรัล diabetis
00:02:28 → 00:02:31 incipidus ซึ่งคบได้บ่อยที่สุดเกิดจาก
00:02:31 → 00:02:35 สมองส่วนไฮโปทาลัสหรือต่อมใต้สมองเสียหาย
00:02:35 → 00:02:38 เช่นจากอุบัติเหตุที่ศีรษะการผ่าตัดเนื้อ
00:02:38 → 00:02:42 งอกหรือการติดเชื้อทำให้ผลิต ADH ไม่พอ
00:02:42 → 00:02:46 ส่งผลให้ปัสสาวะมากและกระหายน้ำมากประเภท
00:02:46 → 00:02:49 นี้มักเกิดในวัยผู้ใหญ่และสามารถจัดการ
00:02:49 → 00:02:52 ได้ถ้าตรวจพบเร็วประเภทที่ 2 คือโรคเบา
00:02:52 → 00:02:57 จืดจากไตหรือ Nefroenic Diis inซidus
00:02:57 → 00:03:00 เกิดจากไตไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน ADH แม้
00:03:00 → 00:03:03 สมองจะผลิตออกมาแล้วสาเหตุอาจมาจากโรคไต
00:03:03 → 00:03:06 เรื้อรังระดับแคลเซียมในเลือดสูง
00:03:06 → 00:03:09 โพแทสเซียมต่ำหรือผลข้างเคียงจากยาเช่น
00:03:09 → 00:03:12 ลิเธียมที่ใช้รักษาอาการทางจิตเวทซึ่งพบ
00:03:13 → 00:03:15 ได้ถึง 40-55%
00:03:15 → 00:03:19 ในผู้ที่ใช้ยานี้ระยะยาวครับประเภทที่ 3
00:03:19 → 00:03:22 คือโรคเบาจืดจากกลไกกระหายน้ำหรือ
00:03:22 → 00:03:25 dipsogenic diabetis incipidus ซึ่ง
00:03:25 → 00:03:28 เกิดจากสมองส่วนควบคุมความกระหายทำงานผิด
00:03:28 → 00:03:32 ปกติทำให้ดื่มน้ำมากเกินไปและลดระดับ ADH
00:03:32 → 00:03:35 ในร่างกายมักเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพจิต
00:03:35 → 00:03:38 หรือการบาดเจ็บที่สมองและประเภทสุดท้าย
00:03:38 → 00:03:42 คือโรคเบาจืดขณะตั้งครรภ์หรือ gestational
00:03:42 → 00:03:45 diabetes Inpidus ซึ่งเกิดจากเอนไซม์
00:03:45 → 00:03:49 จากรกทำลาย ADH ทำให้ไตตอบสนองน้อยลงแต่
00:03:49 → 00:03:53 ส่วนใหญ่มักหายเองหลังคลอดครับ 3 สัญญาณ
00:03:53 → 00:03:56 เตือนภัยและอาการที่ควรระวัง
00:03:56 → 00:03:59 อาการของโรคเบาจืดมักเริ่มต้นแบบค่อยเป็น
00:03:59 → 00:04:03 ค่อยไปแต่ถ้าสังเกตดีๆคุณจะเห็นสัญญาณชัด
00:04:03 → 00:04:06 เจนครับอาการหลักคือปัสสาวะบ่อยและมากผิด
00:04:06 → 00:04:10 ปกติโดยปัสสาวะจะใสเหมือนน้ำเปล่าเพราะไต
00:04:10 → 00:04:13 ขับน้ำออกมาเกือบทั้งหมดไม่ใช่สารอื่นๆ
00:04:13 → 00:04:16 เหมือนในโรคเบาหวานนอกจากนี้ยังมีอาการ
00:04:16 → 00:04:19 กระหายน้ำรุนแรงดื่มน้ำเท่าไหร่ก็ไม่พอ
00:04:19 → 00:04:23 ปากแห้งผิวแห้งและอ่อนเพลียเพราะขาดน้ำ
00:04:23 → 00:04:26 และเกลือแร่สำหรับวัยทำงานคุณอาจรู้สึก
00:04:26 → 00:04:29 หงุดหงิดง่ายสมาธิสั้นเพราะนอนไม่หลับจาก
00:04:29 → 00:04:33 การลุกปัสสาวะกลางดึกในผู้สูงวัยอาจมี
00:04:33 → 00:04:36 อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นตาเครียวหรือ
00:04:36 → 00:04:38 คลื่นไส้ซึ่งทำให้เสี่ยงล้มหรือบาดเจ็บ
00:04:38 → 00:04:41 มากขึ้นครับในเด็กเล็กที่อาจเป็นโรคนี้
00:04:41 → 00:04:45 จากพันธุกรรมอาจเจริญเติบโตช้าร้องไห้ผิด
00:04:45 → 00:04:49 ปกติหรือปัสสาวะรถที่นอนแต่สำหรับผู้ใหญ่
00:04:49 → 00:04:52 เราควรเฝ้าระวังถ้าปัสสาวะเกิน 3 ลิตรต่อ
00:04:52 → 00:04:55 วันถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา
00:04:55 → 00:04:58 โรคนี้สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
00:04:58 → 00:05:01 ได้ครับเช่นภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงซึ่งทำ
00:05:01 → 00:05:05 ให้มึนงงวิงเวียนหัวใจเต้นเร็วหรือแม้แต่
00:05:05 → 00:05:09 ช็อกและภาวะเกลือแร่ไม่สมดุลเช่นโซเดียม
00:05:09 → 00:05:12 ต่ำหรือสูงซึ่งกระทบต่อสมองกล้ามเนื้อและ
00:05:12 → 00:05:15 ระบบประสาททำให้ปวดศีรษะเรื้อรังอ่อนแรง
00:05:15 → 00:05:20 หรือชักได้ 4. การวินิจฉัยการรักษาและ
00:05:20 → 00:05:24 เคล็ดลับดูแลตัวเองสำหรับการรักษาโรคนี้
00:05:24 → 00:05:27 ไม่หายขาดแต่สามารถควบคุมอาการได้ดีมาก
00:05:27 → 00:05:30 ครับถ้าเป็นประเภทจากสมองแพทย์จะให้
00:05:30 → 00:05:33 ฮอร์โมนสังเคราะห์อย่างเดสโมpressสซินใน
00:05:33 → 00:05:37 รูปแบบพ่นจมูกกินหรือฉีดเพื่อทดแทน ADH
00:05:37 → 00:05:40 ที่ขาดซึ่งช่วยลดปัสสาวะและกระหายน้ำได้
00:05:40 → 00:05:43 อย่างเห็นผลในประเภทจากไตอาจใช้ยาขับ
00:05:43 → 00:05:46 ปัสสาวะอย่างไฮโดรคลอโรไทอาซาย
00:05:46 → 00:05:49 เพื่อช่วยไตเก็บน้ำหรือปรับอาหารลดเกลือ
00:05:49 → 00:05:53 และโปรตีนต่ำเพื่อลดภาระไตถ้าเป็นประเภท
00:05:53 → 00:05:56 จากตั้งครรภ์มักหายเองหลังคลอดแต่ต้องติด
00:05:56 → 00:05:59 ตามใกล้ชิดส่วนเคล็ดลับดูแลตัวเองที่ผม
00:05:59 → 00:06:02 อยากแนะนำสำหรับวัยทำงานและสูงวัยคือดื่ม
00:06:03 → 00:06:05 น้ำให้พอดีตามที่แพทย์แนะนำหลีกเลี่ยง
00:06:05 → 00:06:08 อาหารเค็มเพื่อไม่กระตุ้นกระหายพกเอกสาร
00:06:08 → 00:06:12 โรคติดตัวเผื่อฉุกเฉินและตรวจสุขภาพไต
00:06:12 → 00:06:15 สมองเป็นระยะถ้าคุณใช้ยาที่เสี่ยงอย่าง
00:06:15 → 00:06:17 ลิเธียมให้ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปรับแผน
00:06:18 → 00:06:21 การดูแลแบบนี้ไม่ใช่รักษาแต่เป็นการพัฒนา
00:06:21 → 00:06:24 ตัวเองให้แข็งแรงสมดุลและพร้อมสำหรับวัย
00:06:24 → 00:06:28 เกษียณที่สุขภาพดีครับท่านผู้ฟังครับโรค
00:06:28 → 00:06:31 เบาจืดที่เราพูดถึงในวันนี้แม้จะพบได้
00:06:31 → 00:06:33 น้อยแต่เป็นภัยเงียบที่อาจกระทบชีวิต
00:06:33 → 00:06:37 ประจำวันของคุณได้หากปัสสาวะบ่อยกระหาย
00:06:37 → 00:06:40 น้ำมากหรืออ่อนเพลียผิดปกติอย่าคิดว่า
00:06:40 → 00:06:43 เป็นเรื่องเล็กการเข้าใจสาเหตุประเภท
00:06:43 → 00:06:46 อาการและทางรักษาไม่ใช่ความรู้แต่เป็นกุญ
00:06:46 → 00:06:49 กุญแจสู่การดูแลตัวเองที่ยั่งยืนเป็นการ
00:06:49 → 00:06:52 ลงทุนเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงลดความเสี่ยง
00:06:52 → 00:06:55 แทรกซ้อนและช่วยให้คุณใช้ชีวิตไวทำงาน
00:06:55 → 00:06:58 หรือสูงวัยได้อย่างเต็มที่ครับผมหวังเป็น
00:06:58 → 00:07:01 อย่างยิ่งว่าข้อมูลในวันนี้จะจุดประกาย
00:07:01 → 00:07:04 ให้ทุกท่านตระหนักและเริ่มปรับพฤติกรรม
00:07:04 → 00:07:07 เล็กๆน้อยๆเช่นสังเกตอาการตัวเองดื่มน้ำ
00:07:07 → 00:07:11 ให้พอดีและตรวจสุขภาพเป็นประจำการเปลี่ยน
00:07:11 → 00:07:14 แปลงวันนี้สามารถนำไปสู่สุขภาพที่ดีขึ้น
00:07:14 → 00:07:17 ในวันพรุ่งนี้ได้อย่างแน่นอนครับก่อนจะ
00:07:17 → 00:07:19 ปิดรายการในวันนี้ขอเรียนให้คุณผู้ฟัง
00:07:19 → 00:07:23 ทราบว่าเนื้อหาในพcสนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้
00:07:23 → 00:07:26 ข้อมูลและความรู้ทั่วไปเท่านั้นและหากมี
00:07:26 → 00:07:29 ข้อสงสัยหรือปัญหาด้านสุขภาพควรปรึกษา
00:07:29 → 00:07:31 แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทุก
00:07:31 → 00:07:35 ครั้งนะครับหากคุณชื่นชอบพcสนี้อย่าลืมกด
00:07:35 → 00:07:38 ติดตามและแชร์ให้เพื่อนๆหรือคนในครอบครัว
00:07:38 → 00:07:41 ที่คุณรักนะครับเพราะการแบ่งปันความรู้
00:07:41 → 00:07:44 เป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งขอบคุณที่
00:07:44 → 00:07:47 รับฟังแล้วพบพบกันใหม่ในตอนหน้าสวัสดี
00:07:47 → 00:07:50 ครับ