00:00:00 → 00:00:02 โรคจิตหลงผิดที่ทำให้ผู้ป่วยมีความเชื่อ
00:00:02 → 00:00:06 ผิดๆในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงนะคะและใน
00:00:06 → 00:00:08 ช่วงนี้ค่ะเราจะมาพูดคุยกับแพทย์ผู้
00:00:08 → 00:00:12 เชี่ยวชาญท่านก็คือนายแพทย์ชารินทร์พิภพ
00:00:12 → 00:00:14 ทัศนีจิตแพทย์โรงพยาบาล
00:00:15 → 00:00:18 bmh Bangkok mental Health
00:00:18 → 00:00:22 Hospital สวัสดีค่ะ
00:00:22 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:30 อาจารย์
00:00:30 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:36 ขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะคะอาจารย์โรคจิต
00:00:36 → 00:00:39 หลงผิดคืออะไรและมีอุบัติการของการเกิด
00:00:39 → 00:00:42 โรคอย่างไรบ้างคะครับโรคจิตหลงผิดหรือว่า
00:00:42 → 00:00:45 delusional disorder เนี่ยก็เป็นโรคทาง
00:00:45 → 00:00:48 จิตเวทชนิดหนึ่งซึ่งคนไข้ก็จะมาด้วยอาการ
00:00:48 → 00:00:50 ประเภทที่ว่ามีความเชื่อผิดๆนะครับซึ่ง
00:00:50 → 00:00:54 ความเชื่อผิดๆพวกเนี้ยจะไม่สามารถสั่นคอน
00:00:54 → 00:00:56 ได้ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานมีข้อโต้แย้งมา
00:00:56 → 00:00:59 เขาก็จะยังมีความเชื่อแบบนั้นอยู่ซึ่งโลค
00:00:59 → 00:01:01 นี้เนี้ยเป็นโรคที่เจอได้ค่อนข้างน้อยนะ
00:01:01 → 00:01:04 ครับจริงๆแล้วในหมื่คนเนี่ยจะเจอได้
00:01:04 → 00:01:07 ประมาณ 2-5 คนครับแล้วโรคจิตหลงผิดมี
00:01:07 → 00:01:09 สาเหตุเกิดจากอะไรคะเช่นเดียวกับโรคทาง
00:01:09 → 00:01:13 จิตเวทอื่นๆนะครับโรคจิตหลงผิดเนี่ยก็เรา
00:01:13 → 00:01:15 ก็ไม่สามารถหาสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งได้
00:01:15 → 00:01:18 อย่างชัดเจนมันมักจะประกอบกันด้วยจาก
00:01:18 → 00:01:21 สาเหตุต่างๆกันร่วมกันอย่างเช่นพันธุกรรม
00:01:21 → 00:01:24 สมมุติว่ามีคนในบ้านที่มีโรคทางจิตเวทก็
00:01:24 → 00:01:26 ผู้ป่วยก็จะมีความเสี่ยงกับโรคนี้มากขึ้น
00:01:26 → 00:01:30 นะครับหรือว่าเอิ่มความเครียดความกดดัน
00:01:30 → 00:01:33 จากสังคมจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างก็จะทำให้
00:01:33 → 00:01:35 มีความเสี่ยงมากขึ้นซึ่งทั้งหมดเนี้ยมัน
00:01:35 → 00:01:38 ก็จะมีส่งผลต่อสารสื่อประสาทในสมองทำให้
00:01:38 → 00:01:41 เกิดความเชื่อผิดๆขึ้นมาได้ครับนอกเหนือ
00:01:41 → 00:01:44 ไปจากนี้โรคทางกายบางอย่างการกินยาบาง
00:01:44 → 00:01:46 อย่างยาเสพติดแอลกอฮอล์ก็สามารถกระตุ้น
00:01:46 → 00:01:48 ให้เกิดอาการได้เช่นเดียวกันครับอาการของ
00:01:48 → 00:01:51 โรคจิตหลงผิดเป็นอย่างไรคะอาจารย์ก็ตาม
00:01:51 → 00:01:53 ชื่อนะครับโรคจิตหลงผิดเนี่ยก็จะมีความ
00:01:53 → 00:01:58 เชื่อผิดๆซึ่งไม่ไม่สามารถสั่นคอนได้ไม่
00:01:58 → 00:02:02 สามารถโต้แย้งได้สมมุติว่าแค่มีความเชื่อ
00:02:02 → 00:02:05 ผิดๆอย่างสมมุติว่าผมมีความเชื่อผิดๆตาม
00:02:05 → 00:02:08 ปกติสมมุติผมเชื่อว่าไก่มี 4 ขาอย่าง
00:02:08 → 00:02:11 เงี้ยผมไปดูฟาร์มไก่ผมเห็นไก่ 2 ขาผมก็จะ
00:02:11 → 00:02:14 เอ้ยเปลี่ยนความคิดละนะครับแต่ว่าคนที่
00:02:14 → 00:02:16 ป่วยเนี่ยต่อให้เอาไก่ทั้งฟาร์มให้เขาคดู
00:02:16 → 00:02:19 เขาก็จะยังไม่เชื่อเขาก็อาจจะหาเหตุผลมา
00:02:19 → 00:02:22 แย้งว่าเฮ้ยคุณเอาไก่ปลอมให้ผมดูนะคุณตัด
00:02:22 → 00:02:25 ขาไก่ไปเปล่าอย่างเงี้ยครับใครคือกลุ่ม
00:02:25 → 00:02:28 เสี่ยงที่จะเป็นโรคจิตหลงผิดคะปัจจัย
00:02:28 → 00:02:31 เสี่ยงก็คือเิมอย่างที่แจ้งไปนะครับก็คือ
00:02:31 → 00:02:35 อย่างเช่นคนที่มีอสมาชิกในครอบครัวป่วยก็
00:02:35 → 00:02:38 จะมีพันธุกรรมซึ่งซึ่งเพิ่มความเสี่ยงได้
00:02:38 → 00:02:42 นะครับแล้วก็อมส่วนใหญ่เนี่ยโรคจียงลงผิด
00:02:42 → 00:02:44 จะเกิดขึ้นในอายุของคนที่อายุตั้งแต่
00:02:44 → 00:02:49 ประมาณ 40 ปีขึ้นไปครับคนที่อ่ามเป็นผู้
00:02:49 → 00:02:53 อพยพซึ่งบางทีเขาจะไม่สามารถใช้ภาษาสื่อ
00:02:53 → 00:02:57 สารได้กับคนในสังคมนั้นๆเขาก็อาจจะมีความ
00:02:57 → 00:02:59 ไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นแล้วก็จะเกิดสมองก็
00:02:59 → 00:03:02 จะเกิดการการตีความที่แตกต่างออกไปคนที่
00:03:02 → 00:03:05 อ่ามีปัญหาด้านการได้ยินด้านการมองเห็นก็
00:03:05 → 00:03:08 มีความเสี่ยงมากขึ้นเหมือนกันครับโรคจิต
00:03:08 → 00:03:12 หลงผิดสามารถแบ่งออกได้เป็นกี่ประเภทคะ
00:03:12 → 00:03:15 ครับโรคจิตหลงผิดเนี่ยก็จะแบ่งตามเอิ
00:03:15 → 00:03:17 ประเภทของความเชื่อว่าเขาเชื่อเกี่ยวกับ
00:03:17 → 00:03:21 อะไรนะครับอย่างเช่นอาจจะเป็นเอิ่มใน
00:03:21 → 00:03:24 กลุ่มที่เชื่อว่าคนมีชื่อเสียงดาราเนี่ย
00:03:24 → 00:03:26 มาแอบชอบตัวเองอันนี้ก็เป็นประเภทนึงนะ
00:03:26 → 00:03:30 ครับอีกประเภทนึงก็อาจจะเชื่อว่าสามีพระ
00:03:30 → 00:03:33 เนี่ยนอกใจต่อให้พยายามอธิบายยังไงก็ไม่
00:03:33 → 00:03:37 เชื่อนะครับอาจจะมีประเภทที่ว่าเอิกังวล
00:03:37 → 00:03:40 ว่าคนอื่นจะมาทำร้ายตนเองนินทาตนเองอัน
00:03:40 → 00:03:43 นี้ก็เป็นประเภทหนึนะครับบางคนก็จะมีความ
00:03:43 → 00:03:46 เชื่อผิดๆที่ว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษเ
00:03:46 → 00:03:49 อ่านใจคนได้อย่างรู้ฟ้าดินอันนี้ก็เป็น
00:03:49 → 00:03:52 อีกประเภทนึงเป็นต้นอีกประเภทนึงเนี่ยก็
00:03:52 → 00:03:54 คือความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับอย่างเช่น
00:03:54 → 00:03:57 อวัยวะในร่างกายตนเองว่าสมมุติตับตัวเอง
00:03:57 → 00:03:59 หายไปหรือว่าไตไม่ทำงานอย่างเงี้ยก็เป็น
00:03:59 → 00:04:03 ประเภทหนึ่งเช่นเดียวกันครับอาจารย์คะ
00:04:03 → 00:04:06 แล้วการที่เราเนี่ยไปหลงผิดคิดว่าคนๆ
00:04:06 → 00:04:09 เนี้ยเป็นคนรักของเราเนี่ยมีความต่างจาก
00:04:09 → 00:04:12 การที่เราไปชื่นชมนักร้องอย่างไรบ้างคะ
00:04:12 → 00:04:14 อ่ะสมมุติผมเนี่ยไปชอบดาราคนนึงใช่ไหมม
00:04:14 → 00:04:17 ครับผมอาจจะชอบหน้าตาอาจจะชอบความสามารถ
00:04:17 → 00:04:21 ของเขามันก็จบแค่นั้นผมไม่ได้ไปคิดว่าเา
00:04:21 → 00:04:24 เนี่ยจะมาปลื้มเราด้วยใช่มยครับแต่ว่าใน
00:04:24 → 00:04:28 คนที่ป่วยเนี่ยสมมุติว่าต่อให้ไม่เคยเจอ
00:04:28 → 00:04:31 กันเห็นกันแค่ในทีวีแต่เขาก็อาจจะมีความ
00:04:31 → 00:04:35 เชื่อว่าเฮ้ยดาราเนี่ยมันแอบชอบตัวเองนะ
00:04:35 → 00:04:37 ครับซึ่งในกรณีแบบเนี้ยบางทีจะเกิดปัญหา
00:04:37 → 00:04:41 ได้ก็คือเาเนี่ยอาจจะมีการแอบสะกดรอยตาม
00:04:41 → 00:04:44 หรือว่าไปปีนเข้าบ้านดาราเพราะว่าเขาอ่ะ
00:04:44 → 00:04:48 เชื่อมั่นถือมั่นว่าเฮ้ยดารามาแอบชอบตัว
00:04:48 → 00:04:50 เองนะแต่ว่าในความเป็นจริงคือมันไม่ได้มี
00:04:50 → 00:04:53 การติดต่อกันเไม่เคยแชทหากันใช่มั้ครับ
00:04:53 → 00:04:55 ซึ่งมันไม่ตรงกับความเชื่อของเขาเขาก็อาจ
00:04:55 → 00:04:57 จะอยากไปเค้นหาความจริงว่าเฮ้ยมันเกิด
00:04:57 → 00:04:59 อะไรขึ้นก็จะเกิดการแบบเยครับครับการไป
00:04:59 → 00:05:03 ปีนเข้าบ้านการไปสะกดรอยตามจะกลายเป็นสอร
00:05:03 → 00:05:06 ได้ใช่ครับคือสกอรนั่นเองอาจารย์คะ
00:05:06 → 00:05:10 สตอกเกอร์หรือว่าผู้ที่มีพฤติกรรมติดตาม
00:05:10 → 00:05:13 คนอื่นน่ะค่ะตรงนี้ถือว่าเป็นโรคจิตหลง
00:05:13 → 00:05:16 ผิดหรือไม่คะไม่เสมอไปครับสอรเนี่ยก็เกิด
00:05:16 → 00:05:18 ได้จากหลายสาเหตุไม่จำเป็นต้องเป็นโรคนี้
00:05:18 → 00:05:22 อาจจะเป็นคนที่ไม่ป่วยแต่ว่าเ่ามีจุด
00:05:22 → 00:05:25 ประสงค์บางอย่างอยากจะไปตามอีกคนนึงก็ได้
00:05:25 → 00:05:29 เหมือนกันแล้วโรคจิตหลงผิดที่ระแวงว่าคน
00:05:29 → 00:05:33 รักนอกใจต่างจากการหึงห่วงคนรักอย่างไรคะ
00:05:33 → 00:05:35 อาจารย์ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยมี
00:05:35 → 00:05:37 ประสบการณ์การหึงห่วงใช่มั้ยครับซึ่งถ้า
00:05:38 → 00:05:40 เป็นคนปกติที่ไม่ป่วยเนี่ยสมมุติว่าแฟน
00:05:40 → 00:05:43 อธิบายเราก็สามารถเปิดใจฟังได้พยายามคิด
00:05:43 → 00:05:46 ตามเหตุผลจะเชื่อแฟนไม่เชื่อแฟนอีอีกอีก
00:05:46 → 00:05:48 เรื่องนึงแต่มันมีความสามารถในการที่คิด
00:05:48 → 00:05:51 ตามเหตุผลได้นะครับแต่คนที่ป่วยเนี่ย
00:05:51 → 00:05:55 สมมุติว่าเช้าเนี้ยแฟนก้าวเท้าขวาออกจาก
00:05:55 → 00:05:59 ห้องนอนเค้าก็อาจจะเอาสิ่งนั้นน่ะมาผูก
00:05:59 → 00:06:03 โยงสตอต่อไปว่าเฮ้ยเพราะแฟนก้าวเท้าขวา
00:06:03 → 00:06:05 ต้องนอกใจแน่นอนต่อให้แฟนอยู่ด้วยทั้งวัน
00:06:05 → 00:06:08 ให้แฟนอธิบายยังไงเขาความเชื่อนั้นก็ไม่
00:06:08 → 00:06:10 สามารถสันคอนได้ไม่สามารถถูกโต้แย้งได้
00:06:10 → 00:06:13 อย่างไเยคืออาการป่วยครับอาจารย์ขาอยาก
00:06:13 → 00:06:16 ให้อาจารย์ชี้ชัดๆไปเลยค่ะว่าเรื่องของ
00:06:16 → 00:06:19 ภาวะจิตหลงผิดที่เป็นเรื่องของทางจิตเวช
00:06:19 → 00:06:22 กับเรื่องราวทั่วๆไปที่เกิดขึ้นได้หรือ
00:06:22 → 00:06:24 ว่าภาษาอังกฤษเรียกว่า General Life อ่ะ
00:06:24 → 00:06:26 ค่ะอาจารย์มันต่างกันยังไงอยากให้อาจารย์
00:06:26 → 00:06:28 ชี้ให้ชัดเลยอ่ะค่ะเส้นบางๆตนี้ครับคือ
00:06:28 → 00:06:32 สิ่งสำคัญเพราะว่าคนที่ป่วยเนี่ยคือยังไง
00:06:32 → 00:06:35 เขามันมันเขาจะไม่รู้ตัวเองว่าความเชื่อ
00:06:35 → 00:06:39 ของเขามันผิดมันไม่สมเหตุสมผลนะเพราะ
00:06:39 → 00:06:42 ฉะนั้นต่อให้ใครจะมาพูดยังไงเขาก็ไม่
00:06:42 → 00:06:45 สามารถเปลี่ยนความคิดได้ครับนนี้คือความ
00:06:45 → 00:06:49 แตกต่างของคนปกติที่มีความเชื่ออย่างใด
00:06:49 → 00:06:51 อย่างหนึ่งซึ่งเป็นจำเพาะเจาะจงกับคนที่
00:06:51 → 00:06:54 ป่วยครับคือการที่ความเชื่อไม่สามารถถูก
00:06:54 → 00:06:58 โต้แย้งถูกสันคอนได้อาจารย์ขาแสดงว่าบาง
00:06:58 → 00:07:01 คนเนี่ยเป็นโรคจิตหลงผิดแต่ยังไม่รู้ตัว
00:07:01 → 00:07:05 ได้ใช่มคะใช่ครับใช่คือการที่อุบัติกามัน
00:07:05 → 00:07:08 น้อยมาก 2-5 คนในหมืเนี่ยอาจจะเป็นเพราะ
00:07:08 → 00:07:10 ว่าคนเป็นแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉะนั้นไม่
00:07:10 → 00:07:13 ได้มาพบแพทย์ไม่ได้การวินิจฉัยมันอาจทำ
00:07:13 → 00:07:15 ให้เป็นน้อยอย่างงั้นก็ได้ไม่ไม่ไม่ใช่
00:07:15 → 00:07:18 ว่าคนที่เป็นทุกคนจะก่อให้เกิดพฤติกรรม
00:07:18 → 00:07:20 ที่แปลกๆอย่างที่เคสที่ผมยกตัวอย่างมา
00:07:20 → 00:07:23 อย่างเช่นคนที่ไปปีนบ้านคนอื่นอย่างเงี้ย
00:07:23 → 00:07:25 อันนี้คือเคสที่ค่อนข้างเป็นเยอะแต่แค่คน
00:07:25 → 00:07:28 ที่มีความเชื่อนิดหน่อยเขาก็อาจจะไม่ไม่
00:07:28 → 00:07:30 ได้ไปทำอะไรซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อน
00:07:30 → 00:07:33 เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่รู้ยิ่งไม่รู้ตัวแล้ว
00:07:33 → 00:07:36 อะไรคือความแตกต่างระหว่างจิตหลงผิดกับ
00:07:36 → 00:07:38 ประสาทหลอนคะอาจารย์จิตหลงผิดเนี่ยอาการ
00:07:38 → 00:07:42 ของของผู้ป่วยคือความคิดนะครับมีความคิด
00:07:42 → 00:07:44 ว่าคนจะมานินทาอย่างงั้นอย่างงนี้คนมาแอบ
00:07:45 → 00:07:47 ชอบใช่มั้ยครับแต่อาการประสาทหล่อเนี่ยก็
00:07:47 → 00:07:52 คืออาจจะมีการได้ยินเห็นได้กลิ่นเป็นต้น
00:07:52 → 00:07:55 ในสิ่งที่ไม่ได้มีอยู่จริงอย่างเช่นได้
00:07:55 → 00:07:57 ยินเสียงคนพูดทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ตรง
00:07:57 → 00:07:59 นั้นเป็นต้นนะครับซึ่งมันจะต่างกันแต่ว่า
00:08:00 → 00:08:03 2 อย่างเยก็พบด้วยกันได้อย่างเช่นคนที่
00:08:03 → 00:08:06 ได้ยินหูแว่วใช่มครับพอได้ยินได้ยินอย่าง
00:08:06 → 00:08:09 นั้นปุ๊บสมองเขาก็อาจจะไปคิดผูกโยงสตอต่อ
00:08:09 → 00:08:13 ไปว่าหูแววเนี่ยมันต้องมีคนอยู่ในบ้านนี้
00:08:13 → 00:08:15 แน่นอนคนเนี่ยเขาต้องไม่หวังดีแน่นอน
00:08:15 → 00:08:17 อย่างเงี้ยก็มันก็ทำให้เกิดเป็นความเชื่อ
00:08:17 → 00:08:20 งงพิษตามมาได้เช่นเดียวกันครับสรุปว่าเรา
00:08:20 → 00:08:23 จะรู้ได้อย่างไรคะอาจารย์ว่าเราเป็นโรค
00:08:23 → 00:08:25 จิตลงผิดใช่ครับตรงเตรงนี้คือยากเพราะ
00:08:26 → 00:08:29 ฉะนั้นก็แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อได้รับการ
00:08:29 → 00:08:32 ประเมินนะครับว่าความเชื่อที่อาจจะไม่
00:08:32 → 00:08:35 เป็นไปตามขนบธรรมเนียมของสังคมเนี่ยมัน
00:08:35 → 00:08:38 อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติหรือว่าเป็นเกณฑ์ที่
00:08:38 → 00:08:41 น่าจะป่วยแล้วโรคจิตหลงผิดรักษาได้อย่าง
00:08:41 → 00:08:44 ไรคะโรคจิตหลงผิดเนี่ยวิธีการรักษาก็มี
00:08:44 → 00:08:48 ได้หลายวิธีนะครับอย่างเช่นอ่าการใช้ยายา
00:08:48 → 00:08:51 ก็จะไปช่วยปรับสารสื่อประสาในสมองทำให้
00:08:51 → 00:08:54 เ่าสารสื่อประสาทเนี่ยกลับมาอยู่ในภาวะ
00:08:54 → 00:08:57 ที่สมดุลอาการก็น่าจะดีขึ้นนะครับร่วมกับ
00:08:57 → 00:09:00 การทำจิตบำบัดการทำจิตบำบัดเนี่ยก็คือจะ
00:09:00 → 00:09:02 เป็นการรับฟังสิ่งที่เขาพูดออกมาแล้วก็
00:09:02 → 00:09:07 พยายามชวนให้ผู้ป่วยเนี่ยหามองในมุมที่
00:09:07 → 00:09:09 แตกต่างออกไปพยายามหาเหตุผลว่าสิ่งที่เขา
00:09:09 → 00:09:12 เชื่อที่เขาพูดออกมานั้นน่ะมันสมเหตุสมผล
00:09:12 → 00:09:15 แค่ไหนสุดท้ายค่ะอาจารย์อยากให้อาจารย์
00:09:15 → 00:09:18 ฝากถึงการป้องกันดูแลจิตใจของตัวเองเพื่อ
00:09:18 → 00:09:21 ไม่ให้เป็นโรคจิตหลงผิดค่ะครับก็ต้องย้อน
00:09:21 → 00:09:23 กลับไปในคำถามในเรื่องของปัจจัยเสี่ยงนะ
00:09:23 → 00:09:26 ครับมันก็จะมีปัจจัยเสี่ยงซึ่งบางทีไปทำ
00:09:26 → 00:09:29 อะไรไม่ได้อย่างเช่นพันธุกรรมนะครับครับ
00:09:29 → 00:09:32 แต่ว่าปัจจัยเสี่ยงที่เราสามารถกำจัดได้
00:09:32 → 00:09:36 เนี่ยก็มีอย่างเช่นการพยายามงดเครื่อง
00:09:36 → 00:09:39 ดื่มแอลกอฮอล์นะครับเว้นงดเว้นการใช้สาร
00:09:39 → 00:09:42 เสพติดหรือว่าการพยายามที่จะบริหารจัดการ
00:09:42 → 00:09:45 ความเครียดเพื่อไม่ให้ตัวเองเนี่ยกดดัน
00:09:45 → 00:09:48 มากเกินไปจนกระตุ้นให้เกิดอาการขึ้นมาพวก
00:09:48 → 00:09:50 เนี้ยนะครับทั้งการดูแลสุขภาพกายสุขภาพ
00:09:50 → 00:09:53 จิตก็น่าจะช่วยอ่าบรรเทาความเสี่ยงลงได้
00:09:53 → 00:09:57 ครับขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:09:57 → 00:10:00 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:10:01 → 00:10:04 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:10:04 → 00:10:07 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:10:07 → 00:10:12 การสดคลิปวีีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:10:12 → 00:10:15 คะ