00:00:00 → 00:00:00 วัน
00:00:00 → 00:00:01 [เพลง]
00:00:01 → 00:00:05 เสาร์ม่อน port Cash Money สดอร่อยร่วม
00:00:05 → 00:00:10 สร้างสรรค์โดยคือภาพดีทวีสุข
00:00:10 → 00:00:14 นี่ก็พอดแคสต์เจาะลึกเรื่องราวของโรคภัย
00:00:14 → 00:00:17 ที่ใครๆก็อาจไม่เคยรู้กับ
00:00:17 → 00:00:21 โรคภัยใครรู้สวัสดีครับพบกับผมเอกพร
00:00:21 → 00:00:24 ศรีสุขทวีรัตน์นะครับกับรายการโรคภัยไข้
00:00:24 → 00:00:26 รู้ครับและเช่นเคยก็อยู่กับพี่หมอเล็ก
00:00:26 → 00:00:28 ครับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดอกเตอร์นายแพทย์
00:00:28 → 00:00:31 กิตติพงษ์สุทธาภาอาจารย์ภาควิชาเภสัช
00:00:31 → 00:00:33 วิทยาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
00:00:33 → 00:00:35 มหาวิทยาลัยมหิดลครับสวัสดีครับพี่หมอ
00:00:36 → 00:00:37 เล็กครับสวัสดีครับคนอื่นแล้วคุณผู้ฟัง
00:00:37 → 00:00:40 ทุกๆท่านครับครับในตอนนี้ครับรายการของ
00:00:40 → 00:00:45 เราเราจะพูดถึงความป่วยแต่ไม่ใช่ป่วยทาง
00:00:45 → 00:00:48 กายและเราจะพูดกันในหัวข้อจิตเภท
00:00:48 → 00:00:52 คำว่าผิดประเภทจิตเภทครับถ้าเกิดจะตีความ
00:00:52 → 00:00:55 หมายอย่างไรคืออะไรอ่ะพี่หมดที่ชาวบ้าน
00:00:55 → 00:00:58 ทั่วไปก็เรียกว่าโรคจิตกับจริงๆภาษาแพทย์
00:00:58 → 00:01:00 จริงๆหรือว่าจิตเภท
00:01:00 → 00:01:02 ฮะซึ่งจิตเภทจริงก็คือความผิดปกติของสมอง
00:01:02 → 00:01:06 อ่ะนะครับคนสวยที่คิดว่าเป็นจิตใจอะไรก็
00:01:06 → 00:01:08 ตั้งแต่คุณก็จะชอบเชื่อมโยงได้กับใจด้วย
00:01:08 → 00:01:11 นะจริงๆแล้วเนี่ยตัวกลไกที่แท้จริงหรอก
00:01:11 → 00:01:15 ไม่ชาติแน่ชัดนะครับแต่ที่เราชอบคร่าวๆก็
00:01:15 → 00:01:17 คือมันเกี่ยวข้องกับสารในสมองเนี่ยมันมี
00:01:17 → 00:01:21 ปกติซึ่งสารที่ว่าเนี่ยเกี่ยวข้องกับอ่า
00:01:21 → 00:01:25 ความรู้สึกการรับรู้ต่างๆจับส่งผลทำให้
00:01:25 → 00:01:29 อาจจะมีภาพหลอนประสาทหลอนคือศาลจะทำงาน
00:01:29 → 00:01:32 มากเกินไปหรือมีมากเกินไปในสมองนั่นเองจะ
00:01:32 → 00:01:36 คือมันก็จะมีหลายคนบอกนะว่าสารเคมีในข้อ
00:01:36 → 00:01:39 สอบในสมองมันไม่ Balance ใช่คนที่แบบดู
00:01:39 → 00:01:43 เย็นชาดูสมมตินะดูเป็นแบบคนที่สะใจกับ
00:01:43 → 00:01:46 หรือว่าไม่รู้สึกอะไรกับความรุนแรงครับ
00:01:46 → 00:01:49 เขาก็ว่ากันว่าก็เพราะว่าไอ้สารบางอย่าง
00:01:49 → 00:01:51 ในสมองมันไม่สมดุลทำให้เขาไม่ได้รู้สึก
00:01:51 → 00:01:55 รู้สาขับมีส่วนครับคือถ้าคุณในจำได้กับ
00:01:55 → 00:01:58 เข้าก่อนเราคุยกันเรื่องยาเสพติดเพื่อยา
00:01:58 → 00:02:00 เสพติดจริงๆผลข้างเคียงอันหนึ่งคือเห็รูป
00:02:00 → 00:02:03 ภาพหลอนหูแว่วนั่นก็เป็นเพราะว่าสารเสพ
00:02:03 → 00:02:06 ติดหรอเนี่ยทำให้สารเคมีในสมองมันเปลี่ยน
00:02:06 → 00:02:08 แปลงขึ้นซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับโรค
00:02:08 → 00:02:12 นี้แหละนะครับจะหน้าก็เป็นเหตุผลคล้ายๆ
00:02:12 → 00:02:14 กันใช่ค่ะมันก็เลยเกิดความไม่สมดุลในสมอง
00:02:14 → 00:02:18 ต้องก็เลยแสดงออกไปทางด้านกายการกระทำของ
00:02:18 → 00:02:22 คนนั้นนะครับถ้าเกิดจะพูดเรื่องจิตเภท
00:02:22 → 00:02:24 เนี่ยมันก็โหมันเยอะแยะมันมีหลายแบบด้วย
00:02:24 → 00:02:27 เนาะเขาแต่ว่าในรายการเราวันนี้เราจะขอยก
00:02:27 → 00:02:30 ตัวอย่างจากภาพยนตร์ชื่อดังก็คือ
00:02:30 → 00:02:34 Beautiful mind ซึ่งผมชื่อว่าถ้าคนอายุ
00:02:34 → 00:02:37 30 ขึ้นไปน่าจะรู้จักแต่ถ้าน้องๆที่แบบ
00:02:37 → 00:02:40 วัยรุ่น 20 ต้นๆหรือมัธยมผมเชื่อว่าคนอาจ
00:02:40 → 00:02:42 จะไม่เคยได้ยินชื่ออะไรด้วยซ้ำนั้นแต่
00:02:42 → 00:02:46 เป็นหนังในตำนานเรื่องหนึ่งใช่ที่ถ้าเกิด
00:02:46 → 00:02:48 ในแง่มุมของไม่ใช่การแพทย์นะในแง่ของคนดู
00:02:48 → 00:02:50 หนังเรียนนิเทศศาสตร์นี้ก็จะรู้สึกว่า
00:02:50 → 00:02:54 เฮ้ยมันครบองค์ประกอบของหนังมันได้รสชาติ
00:02:54 → 00:02:58 มันเป็นหนังสือที่อ้างอิงอัตชีวประวัติ
00:02:58 → 00:03:01 ของบุคคลแล้วก็แนะนำเสนอได้และไม่น่า
00:03:01 → 00:03:05 เบื่ออะอย่างทำในมุมมองไม่บอกเลขว่าในทาง
00:03:05 → 00:03:07 การแพทย์เขาเขาพูดถึงเรื่องหนังเรื่องนี้
00:03:07 → 00:03:10 กันในนามในมุมไหนกันบ้างคือตั้งแต่ต่อ
00:03:10 → 00:03:12 เป็นนักศึกษาแพทย์แล้วก็ได้ดูเรื่องนี้นะ
00:03:12 → 00:03:15 ครับก็ตอนออกมาสักที 2,000 บาทจะเอา 5 4
00:03:15 → 00:03:17 3 ช่วงนั้นอ้ะก็ได้ไปดูนะครับกับแล้ว
00:03:17 → 00:03:21 กำลังเรียนผู้ที่อยู่พอดี 5 ก็ถึงกับการ
00:03:21 → 00:03:24 แสดงของเคนักแสดงแสดงว่าดีมากแล้วครวใช่
00:03:24 → 00:03:28 ครับบทบาทที่เขาแสดงสมจริงมากนะครับคือ
00:03:28 → 00:03:31 แสงของความทรมานของคนเป็นโรคนี้รวมถึง
00:03:31 → 00:03:34 ญาติและภรรยาเค้าถ้าได้ดูเรื่องนะครับจะ
00:03:34 → 00:03:38 ซึ่งต้องคอยดูแลเนี่ยสามีเค้า 11 โรคนี้
00:03:38 → 00:03:40 นะครับกับซึ่งองค์ประกอบเหล่าเนี้ยเห็น
00:03:40 → 00:03:43 ชัดว่าคนไข้แล้วก็รวมญาติของไทยจะมีเค้า
00:03:43 → 00:03:46 ทำไมขนาดไหนจะถ้าคนหายนอกไม่เข้าใจคนไหน
00:03:46 → 00:03:48 นะครับเดี๋ยวคุณผู้ฟังจะงงนะเดี๋ยวผมขอ
00:03:48 → 00:03:50 เล่าเรื่องย่อมาแล้วกันอีกครับถ้าขาดตก
00:03:50 → 00:03:53 ส่วนไหนที่เหมาะสมได้เลยนะครับคือเรื่อง
00:03:53 → 00:03:57 นี้เนี่ยว่าด้วยผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า John
00:03:57 → 00:03:59 forbes nash Junior ขอเลขผู้ชายคน
00:03:59 → 00:04:02 หนึ่งว่าเต็มก็แล้วกันเขาเนี่ยพรุ่งนี้
00:04:02 → 00:04:05 คือเป็นอัจฉริยะเข้าเรียนที่เป็นสั้นนะ
00:04:05 → 00:04:07 ครับแต่วิชาที่เขาเลือกเรียนในก็คือ
00:04:07 → 00:04:11 เหมือนเอกคณิตศาสตร์เรียนโหหมกมุ่นมาก
00:04:11 → 00:04:13 เรื่องตัวเลขเรียนแต่เรื่องตัวเลขแล้วก็
00:04:13 → 00:04:18 ถือว่าเป็นเป็นคนที่เก่งเป็นคนที่โจทย์
00:04:18 → 00:04:21 เต้นด้านคณิตศาสตร์เป็นอย่างมากแต่ว่า
00:04:21 → 00:04:24 บุคลิกของเค้าเนี่ยมันเป็นบุคลิกที่
00:04:24 → 00:04:27 เพื่อนชอบแกล้งครับคือ
00:04:27 → 00:04:30 ถ้าพูดง่ายนะเวลา Roll เราเรียนหนังสือ
00:04:30 → 00:04:32 อาจจะมีเพื่อนเราคนนึงที่เขาอาจจะแบบ
00:04:32 → 00:04:37 บุคลิกคกขึ้นเงินดูเหมือน Nurse แต่มัน
00:04:37 → 00:04:40 เกินกว่าคำว่านะสะพายกระเป๋าก็จะเป็นแบบ
00:04:40 → 00:04:43 ใหญ่ๆไม่ค่อยสุงสิงกับใครในหนังนี่ก็จะ
00:04:43 → 00:04:46 พยายามเล่าว่าผู้ชายคนนี้เก็บตัวแล้วก็ดู
00:04:46 → 00:04:48 เหมือนอ่อนต่อโลกครับคนเล่าอะไรให้ฟังเขา
00:04:49 → 00:04:51 ก็จะงงก็แบบนี้บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจความ
00:04:51 → 00:04:55 หมายแฝงหรืออะไรคือเป็นคนซื่อตรงๆแต่ว่า
00:04:55 → 00:04:59 เก่งมากเป็นอัจฉริยะส่วนสุดท้ายไปทราบว่า
00:04:59 → 00:05:01 ไอ้สิ่งที่มีความแปลกๆของเขาเนี่ยพระ
00:05:01 → 00:05:06 เครื่องหลังในหนังจะเล่าว่าเขาลืมตลาดเขา
00:05:06 → 00:05:08 จะเริ่มมีเสียงกระซิบเริ่มมีประสาทหลอน
00:05:08 → 00:05:12 แล้วก็ทำตัวลับๆล่อๆๆหนังก็จะเล่าว่าเขา
00:05:12 → 00:05:15 มีความผิดปกติทางจิตหรือว่าจิตเภทอาการ
00:05:15 → 00:05:18 ที่เรียกว่าบุคลิกภาพแปลกแยกจากโลกความ
00:05:18 → 00:05:21 เป็นจริงก็ไม่ชื่อด้วยนะถ้าผมอ่านผิดขอ
00:05:21 → 00:05:25 อภัยทระน้อยกินฟรีเอา skip คือเขาก็จะมี
00:05:25 → 00:05:29 ความเจ็บปวดเรื่องของของความหลอนของเขา
00:05:29 → 00:05:32 แล้วก็ความควบคุมอารมณ์นั้นในช่วงท้ายก็
00:05:32 → 00:05:35 จะมีความกับวัดจบเครียดครับแต่สุดท้าย
00:05:35 → 00:05:37 ครับก็ด้วยความเก่งของเขาก็ทำให้เขาเนี่ย
00:05:37 → 00:05:41 สามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้เจ้าสุดท้ายคว้า
00:05:41 → 00:05:44 รางวัลโนเบลได้ในที่สุดซึ่งเรื่องนี้
00:05:44 → 00:05:48 เนี่ยเป็นเรื่องที่อ้างอิงจากเรื่องจริง
00:05:48 → 00:05:51 ด้วยนะครับก็คือเรื่องอ่า Beautiful หมาย
00:05:51 → 00:05:56 ดังนั้นเราเอามาพูดถึงเรื่องจิตเภทประเภท
00:05:56 → 00:05:59 นี้ก็คือแปลกแยกจากความเป็นจริงออกจากโลก
00:05:59 → 00:06:02 แห่งความสิ่งทำไมที่หมอถึงเลือกที่จะหยิบ
00:06:02 → 00:06:05 ยกตัวอย่างเรื่องนี้และจิตเภทประเภทเนี่ย
00:06:05 → 00:06:09 จริงๆจิตเภทจะมีครับเอาถ้าแบ่งใหญ่ๆไม่มี
00:06:09 → 00:06:12 สองอาการแหละนะครับกับอาการกลุ่มที่บวก
00:06:12 → 00:06:16 บวกก็คือความคิดความสะอาดตีความทุกข์
00:06:16 → 00:06:20 อย่างมากเกินคนปกติการเห็นภาพหลอนการได้
00:06:20 → 00:06:23 ยินเสียงแว่วออกพรุ่งนี้คนปกติจะไม่มีคือ
00:06:23 → 00:06:25 อาการทางบวกแต่ว่ามีกลุ่มนึงเพื่อการทาง
00:06:25 → 00:06:29 ลบซึ่งจะตรงกันข้ามเลยคนที่จะเพศกลุ่มลบ
00:06:29 → 00:06:32 ก็คือจะแปลกแยกจากสังคมจะจะพยามไม่เจอใคร
00:06:32 → 00:06:36 แล้วการดูแลตัวเองก็จะหายไปเลยท่านอย่า
00:06:36 → 00:06:38 อาบน้ำแล้วก็ไม่อาบน้ำไม่แต่งตัวสิ้น
00:06:38 → 00:06:41 นะครับตัวนี้ก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งฉะนั้น
00:06:41 → 00:06:43 แบ่งกลุ่มอย่างที่สองกลุ่มนี้แหละกับแต่
00:06:43 → 00:06:46 ถ้าหนังเนี่ยก็จะเป็นแสดงออกทางบวกเยอะนะ
00:06:46 → 00:06:49 ครับจากที่ผมใกล้คนไข้กลุ่มที่มีการทำบวก
00:06:49 → 00:06:52 ก็คือกันภาพล้อจะเห็นว่ามีตัวละครอยู่สอง
00:06:52 → 00:06:56 ตัวที่คุณแนะเห็นตลอดนะครับจะซึ่งตรงนี้
00:06:56 → 00:06:59 จะเป็นอาการทางบวกคนปกติจะไม่เห็นมีเขาคน
00:06:59 → 00:07:02 เดียวที่เห็นเป็นมีการคือเขาคิดว่าไม่มี
00:07:02 → 00:07:04 สกินคือเขาไม่สามารถแยกว่าอะไรจริงไม่
00:07:04 → 00:07:06 จริงเพราะเขาทุกเที่ยวทุกอย่างความจริง
00:07:06 → 00:07:09 หมดจนคนไข้จิตเภทจะเป็นแบบนี้จริงๆที่มัน
00:07:09 → 00:07:12 เป็นสิ่งที่มันคิดหรือรู้สึกขึ้นมาเองใช่
00:07:12 → 00:07:14 ครับเค้าจะแยกไม่ออกว่านี่จริงหรือเท็จ
00:07:14 → 00:07:16 ซึ่งคนทั่วไปจะบอกว่าเนี่ยไม่มีจริงหรอก
00:07:16 → 00:07:19 ไม่มีจริงหรอกแต่เขาเป็นแบบนั้นจริงสมอง
00:07:19 → 00:07:21 เขาตีความว่าเป็นอย่างนี้จริงๆอย่างนี้
00:07:21 → 00:07:25 เนี่ยอันนี้ผมผมผมก็พูดแบบซื่อๆนะครับคน
00:07:25 → 00:07:28 ทั่วไปเดี๋ยวๆให้คนบ้านอ่ะเค้ารู้สึกว่า
00:07:28 → 00:07:31 เฮ้ยบ้าหรอคุยกับใครก็ไม่รู้เขาที่ไม่มี
00:07:31 → 00:07:34 ตัวตนจริงๆด้วยซ้ำใช่ครับคนทั่วไปจะตีเขา
00:07:34 → 00:07:38 มากเขาขนผ้าที่ว่าจริงๆก็คืออาการการเห็น
00:07:38 → 00:07:41 การได้ยินจากคนทั่วไปจะไม่เห็นไม่ได้ยิน
00:07:41 → 00:07:44 ใช่ไหมครับกับต่อให้เราพูดกับเขายังไงก็
00:07:44 → 00:07:46 จะไม่มียอดมาตั้งครรภ์เกินจริงๆก็หลุดโลก
00:07:46 → 00:07:48 ไปแล้วก็เอ่อเขาหลงผิดนั่นเองถ้าสอบทาง
00:07:48 → 00:07:52 การแพทย์กับหลงผิดว่ามันเป็นสิ่งที่เกิด
00:07:52 → 00:07:55 ขึ้นจริงๆและนั่นรวมถึงการหวาดระแวงเรามี
00:07:55 → 00:07:58 เช่นจะถูกใครตามข้าถูก API ตามอย่างนาง
00:07:58 → 00:08:01 เอกหนังเรื่องเนี้ยธมีกันตลอดจริงไม่มี
00:08:01 → 00:08:04 ความจริงเลยทั้งหมดเป็นสิ่งที่ในสมองคิด
00:08:04 → 00:08:07 ขึ้นเองหมดเลยประมวลคิดเยอะต่อยอดจากสิ่ง
00:08:07 → 00:08:10 ที่จริงแหละแต่ไปต่อยอดคิดอะไรก็ไม่รู้
00:08:10 → 00:08:12 แล้วก็จะเรื่องออกว่านี่เป็นเรื่องเท็จ
00:08:12 → 00:08:14 หรือจริงนะครับกลับซึ่งคนไข้เป็นแบบนี้
00:08:14 → 00:08:17 จริงๆครับกลับแต่ว่าไอ้สิ่งที่น่าสนใจ
00:08:17 → 00:08:20 เรื่องนี้ก็กี่โมงใช้คำว่าคนบ้าใช่ไหม
00:08:20 → 00:08:23 ครับแต่ว่าในหลังนี้เนี่ยไม่ใช่คนบ้านะ
00:08:23 → 00:08:27 มันมีอาการอย่างที่พี่บอกแต่เฮ้ยได้โนเบล
00:08:27 → 00:08:32 น่ะเอ้อถูกมั้ยอย่างก็แปลว่ามันมันรู้
00:08:32 → 00:08:36 เช่นเห็นชอบในสิ่งที่ถูกต้องส่วนหนึ่งแต่
00:08:36 → 00:08:39 มันก็มีเกินมีล้นแหละครับแต่ว่าไอ้พื้น
00:08:39 → 00:08:42 ฐานเนี่ยก็ต้องถือว่าเขาก็ยังทำงานเขาก็
00:08:42 → 00:08:44 ยังคำนวณในสิ่งที่มันไม่ได้หลุดโลกและที
00:08:44 → 00:08:47 เดียวใช่จริงๆผมอยากให้สอบเค้าว่าคนบ้า
00:08:47 → 00:08:50 เท่าไหร่คือในฉบับทั่วไปจะได้เงินจริงๆนะ
00:08:50 → 00:08:52 ครับจับแต่ว่าในความเป็นจริงเขาว่าคนบ้าน
00:08:52 → 00:08:56 เนี่ยจะเป็นสัตว์ที่ไม่ถูกต้องหรอกนะครับ
00:08:56 → 00:09:00 จริงหรือว่าโรคจิตเภทมากกว่ามึงมีทั้งหมด
00:09:00 → 00:09:02 ผู้ชายที่หลุดโลกยกเว้นเขาตั้งใจทำจริงๆ
00:09:02 → 00:09:04 อีกเรื่องนึงนะครับกลับแต่ว่ากลุ่มอาการ
00:09:04 → 00:09:07 ของคนที่เป็นจิตเภทชั้นออกแบบนี้จริงๆ
00:09:07 → 00:09:09 แสดงออกอย่างที่คนทั่วไปเรียกแบบนั้นแหละ
00:09:09 → 00:09:12 ครับซึ่งถ้าเกิดเราเข้าใจคนกลุ่มนี้เราจะ
00:09:12 → 00:09:16 ไม่ได้ขนบ้าหรอกแต่คือเขาป่วยเขาแล้ว
00:09:16 → 00:09:19 อะไรมันเป็นสิ่งกระตุ้นอย่างเช่นสมมตินะ
00:09:19 → 00:09:22 อันนี้ผมขอถามว่าสมมติผมเกิดมามีความ
00:09:22 → 00:09:24 เสี่ยงเป็นจิตเภทอยู่แล้วอันนี้ก็ช่วยไม่
00:09:24 → 00:09:27 ได้หรือว่าจริงๆทุกคนความเสียอาจจะเท่า
00:09:27 → 00:09:30 กันแต่มันมีบางอย่างไปกระตุ้นอันนี้อยาก
00:09:30 → 00:09:33 ให้พี่บ่ขยายความบอกว่าคนแต่ละคนมีความ
00:09:33 → 00:09:36 เสี่ยงเป็นจิตเภทครับต่างกันมากน้อยอย่าง
00:09:36 → 00:09:38 ไรละคือตรงเนี้ยมันเกี่ยวข้องกับกรรม
00:09:38 → 00:09:41 พันธุ์ค่อนข้างเยอะทำพันธุกรรมฉะนั้นถ้า
00:09:41 → 00:09:45 เกิดว่ามีญาติพ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่อวด
00:09:45 → 00:09:47 ครอบครัวที่เป็นแล้วก็จะมีความเสี่ยงนะ
00:09:47 → 00:09:49 ครับยิ่งถ้าพ่อทั้งแม่เป็นแล้วมีความ
00:09:49 → 00:09:52 เสี่ยงเพิ่มขึ้นทวีคูณเลยนะครับมันเกี่ยว
00:09:52 → 00:09:55 ข้องกับการทำงานของสมองอ่ะที่ผิดปกตินะ
00:09:55 → 00:09:58 ครับส่วนตัวกระตุ้นมีหรือเปล่าคำตอบก็คือ
00:09:58 → 00:10:01 มีก็อยากจะนี่แหละแต่ว่ามันไม่ทำให้เป็น
00:10:01 → 00:10:04 โรคนะครับมันแค่ทำให้มีอาการของจิตเภท
00:10:04 → 00:10:06 ต้องแยกกันที่เหลือขอเหมือนกดคนที่เล่นยา
00:10:06 → 00:10:09 บ้าจนคลั่งเพี้ยนใช่อันนั้นคือจริงๆก็ไม่
00:10:09 → 00:10:12 ได้ที่เพจหรอกแต่ยาสวัสดีอย่าทำให้เขา
00:10:12 → 00:10:14 เป็น 10 เหตุใช่ครับแต่ถ้าเป็นโรคจิตเภท
00:10:14 → 00:10:18 จริงๆคือจะแสดงอาการออกมาถ้าเอาตามสถิติ
00:10:19 → 00:10:21 นะครับก็มา 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจะมี
00:10:21 → 00:10:25 กลุ่มโรคนี้พบได้นะครับโดยชาไปซึ่งสาเหตุ
00:10:25 → 00:10:27 ที่แท้จริงเหรอจะตอบไม่ได้ชัดแต่ก็มาพัน
00:10:27 → 00:10:31 แบบนี้ส่วนนะครับจะแล้วชายหญิงนะครับก็จะ
00:10:31 → 00:10:33 เป็นอายุประมาณเท่าไหร่ก็จะเป็นอายุ
00:10:33 → 00:10:37 ประมาณผู้ใหญ่ตอนต้น 20 กว่าๆนะครับจะไม่
00:10:37 → 00:10:40 ค่อยมีตอนแบบเด็กๆมากหรือว่าตอนแก่แล้วจะ
00:10:40 → 00:10:42 ไม่ค่อยพบกี่ประเภท a มันเกี่ยวไหมว่า
00:10:42 → 00:10:45 จริงไม่เคยมีอาการเลยและอาจจะความเสี่ยง
00:10:45 → 00:10:48 ต่ำแต่พอไปเล่นยาทีนึงเป็นจิตเภทจากอย่า
00:10:48 → 00:10:51 และเขานี่ไปไม่กลับเลยครับมันมีแบบนั้น
00:10:51 → 00:10:53 ไหมมีครับเพราะว่านั้นเกิดจากสารเคมีก็
00:10:53 → 00:10:57 คือยาเสพติดทำลายสมองคือเป็นที่ทางเคมี
00:10:57 → 00:11:00 ทำลายเพื่ออะไรครับแต่ถ้าเกิดเป็นโรคจิต
00:11:00 → 00:11:03 แน่จริงก็คือธรรมชาติของสมองเจอค่อยผิด
00:11:03 → 00:11:06 ปกติไปเรื่อยๆอาการจะแสดงชัดต่ออายุ 20
00:11:06 → 00:11:09 กว่าจะใช้ Hop จะเริ่มมีเห็นภาพหลอนหู
00:11:09 → 00:11:11 แว่ว
00:11:11 → 00:11:15 อาการมากสุดถึงขั้นไหนคือมันจะเป็นมาก
00:11:15 → 00:11:18 ขึ้นเรื่อยๆครับจานเดิมเริ่มและถ้าไม่ได้
00:11:18 → 00:11:20 รักษานะคะต้องครับถ้าไม่รักษานะครับมิ
00:11:20 → 00:11:22 ฉะนั้นเหรอหนึ่งอย่าให้ผู้ตัวนี้ก่อนเลย
00:11:22 → 00:11:26 ว่าถ้าพบหรือว่าเพื่อนเรามีอาการผิดปกติ
00:11:26 → 00:11:30 เช่นได้ยินหูแว่วมีภาพหลอนต้องรีบพาไปส่ง
00:11:30 → 00:11:32 แพทย์พวกมันมีอาการเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆนะ
00:11:32 → 00:11:35 ครับแล้วจะรักษายิ่งรักษาเร็วก็ยิ่งดี
00:11:35 → 00:11:39 เท่านั้นแต่นี่แยกให้ออกนะเพื่อนคู่หู
00:11:39 → 00:11:42 แว่วเพื่อนหูตึงเพราะบางทีเราตะโกนเรียก
00:11:42 → 00:11:45 มันเขาแล้วมันไม่ได้ยินไหมคะอะไรนะเพื่อน
00:11:45 → 00:11:48 เบอร์ๆกับกูไว้เท่านี้ต่างกันก็จะมีคนที่
00:11:48 → 00:11:50 แบบเพื่อนไงก็ไม่ได้ยินแล้วก็จะเป็นแบบ
00:11:50 → 00:11:53 อะไรให้ใครเทียบกับอะไรอย่างนี้อันนี้มัน
00:11:53 → 00:11:55 เดี๋ยวพี่แบบนึงนะแต่หูแว่วเนี่ยถามว่า
00:11:55 → 00:11:58 นิยามคือดาบก็คือจะต้องได้ยินเป็นเรื่อง
00:11:58 → 00:12:01 เป็นราวแล้วนะครับไม่เอาล่ะมีแค่แบบอย่าง
00:12:01 → 00:12:03 ถ้าคุณอาจะเคยเจอบ้างคือตอนตื่นนอนใหม่ๆ
00:12:03 → 00:12:06 จะได้ยินและวิ้งวิ้งเออพูดไม่เกี่ยวหรือ
00:12:06 → 00:12:09 ว่ามีหรือเป็นเสียงจิ้งหรีดกูตลอดนี่ก็
00:12:09 → 00:12:12 ต้องทั้งหูนะครับก็ชอบบอกว่าที่นี่คือจะ
00:12:12 → 00:12:14 คิดไม่ได้เป็นเราแล้วก็ zip บอกว่าเนี่ย
00:12:14 → 00:12:16 คุณต้องทำนี้ต้องทำอย่างเงี้ยคุณไม่ดี
00:12:16 → 00:12:18 หรอกอะไรเงี้ยคือเข้าไปเรื่อยไปหรอกนะ
00:12:18 → 00:12:20 ครับผิดปกติอันที่เราเห็นในหนังมันจะมี
00:12:20 → 00:12:24 แบบจริงๆตัวเนี้ยมันแกล้งดีกับเราแต่จริง
00:12:24 → 00:12:26 ๆแล้วมันแอบจะลอบฆ่าเราก็ได้เงินก็จะเป็น
00:12:26 → 00:12:29 ไรเราแบบนี้เลยถูกต้องครับจะเป็นเรื่อง
00:12:29 → 00:12:32 เป็นราวครับเขานี่ถือว่าหนักมากนะครับพูด
00:12:32 → 00:12:35 ถึงจิตเภทแล้วเนี่ยโรคซึมเศร้าเป็นสิ่ง
00:12:35 → 00:12:37 ที่พักหลังๆเราได้ยินกันเยอะๆอย่างซึม
00:12:37 → 00:12:39 เศร้าอีกนะมีคุณผู้ฟังส่งคำถามมาจริงๆนะ
00:12:39 → 00:12:42 เพราะอย่างนี้ซึมเศร้าในเป็นจิตเภทหรือ
00:12:42 → 00:12:46 เปล่าฮะคือต้องอย่างนี้ 1 คืนถ้าโรคทาง
00:12:46 → 00:12:49 จิตเวชนะครับทหารจิตเวชเนี่ยก็จะแบ่งใหญ่
00:12:49 → 00:12:52 ๆสำหรับคนทั่วไปก็แบ่งประเภทที่ความคิด
00:12:52 → 00:12:55 ความคิดอ่านผิดปกตินี่คือกลุ่มโรคจิตเภท
00:12:55 → 00:12:59 อีกกลุ่มหนึ่งก็คือรั้งจิตเวชชีจิตเภท
00:12:59 → 00:13:01 อยู่หนึ่งในนั้นนะครับใหญ่คือความคิด
00:13:01 → 00:13:04 ที่ตัวสิจิตเภทที่ดำกันวันนี้แหละอีก
00:13:04 → 00:13:06 กลุ่มหนึ่งคือผิดปกติทางอารมณ์นั่นก็คือ
00:13:07 → 00:13:10 อารมณ์มีความคิดอยากฆ่าตัวตายมีอารมณ์ที่
00:13:10 → 00:13:13 อยากจะทำอะไรมากเกินคนปกติคือแบบนี้ก็คือ
00:13:13 → 00:13:16 เป็นโรคในเชิงอารมณ์ซึ่งกลไกก็จะเป็นคนละ
00:13:16 → 00:13:18 คนใจกันกับขับแต่เกิดจากสมองเหมือนกัน
00:13:18 → 00:13:22 บ้างครับแต่แค่ว่าต้องแยกให้ชัดเจนครับก็
00:13:22 → 00:13:24 เดี๋ยวยังไงเดี๋ยวเราติดค้างเอาไว้เพราะ
00:13:24 → 00:13:26 ว่าข้าพูดเดี๋ยวมันยืดเยื้อแน่นอนใช่
00:13:26 → 00:13:28 เรื่องซึมเศร้าเดี๋ยวเราจะเอาไว้พูดกันใน
00:13:28 → 00:13:32 EP ถัดไปก็แล้วกันได้นี่ผมถามหน่อยเราจะ
00:13:32 → 00:13:35 เห็นกันเยอะว่าเด็กๆเขาก็จะมีเพื่อนใน
00:13:35 → 00:13:39 จินตนาการเราจะได้นั่งเยอะนะอย่างเช่นจน
00:13:39 → 00:13:44 นี่ในหนังหรือพี่แดงเนี่ยไปเล่นกันหรือ
00:13:44 → 00:13:46 นั่งคุยคนเดียวแต่คนนั่งนั่งอยู่คนเดียว
00:13:46 → 00:13:50 นะแต่เป็นตุเป็นตะเลยแบบถือตุ๊กตาไปจูง
00:13:50 → 00:13:52 ให้เอาไปให้แบ่งกันเล่นอะไรอย่างเงี้ย
00:13:52 → 00:13:55 ครับก็อย่างนี้ถือเป็นจิตเภทอ่ะฮะประเด็น
00:13:55 → 00:13:58 ที่ดีครับที่ยกขึ้นมาครับคือตรงนี้เด็กๆ
00:13:58 → 00:14:02 ธรรมชาติของเด็กก็อ่านโดยส่วนใหญ่เพื่อน
00:14:02 → 00:14:05 เห็นเพื่อนในจินตนาการเป็นเรื่องปกตินะ
00:14:05 → 00:14:07 ครับที่เกิดได้นะครับซึ่งพอเขาโตขึ้นก็จะ
00:14:07 → 00:14:10 พฤติกรรมแบบนี้จะหายไปเองนะครับจับแต่ว่า
00:14:10 → 00:14:13 นะครับถ้าเราไม่ว่าจริงๆผมแนะนำว่าอาจจะ
00:14:13 → 00:14:16 เงียบคุณพ่อคุณแม่เลยล่ะไปคุยกับอาจารย์
00:14:16 → 00:14:19 หมอก่อนนั้นจะคือหมอเด็กก่อนก็ได้ว่า
00:14:19 → 00:14:21 แบงค์เดียวที่ปกติหมายแพ่งกันแนะนำต่ออีก
00:14:21 → 00:14:25 ทีครับคือคนรู้จักผมในก็มีนะคนที่เขาลูก
00:14:25 → 00:14:28 มีเพื่อนในจินตนาการครับพูดถึงโดยที่บาง
00:14:28 → 00:14:30 ทีมันก็แอบขนลุกแล้วต้องยอมรับอ่ะเพราะ
00:14:30 → 00:14:33 ว่าคนอื่นผู้ใหญ่เขาไม่เห็นเนี่ยก็ผมว่า
00:14:33 → 00:14:36 นะคะนี้คำแนะนำจากผมนะก็ลองดูสักพักหนึ่ง
00:14:36 → 00:14:39 ครับถ้าหายก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะมันก็มี
00:14:39 → 00:14:42 อยู่คนรู้จักทุกข์ก็หายไปเองแต่ถ้าไม่หาย
00:14:42 → 00:14:47 ก็คงหาหมอหมอจิตแพทย์หรือว่าบอกพี่ที่ผม
00:14:47 → 00:14:50 พูดเล่นนะจะไปหาจิตแพทย์ก่อนผมเชื่อว่า
00:14:50 → 00:14:53 หมอเด็กในท่านอาจจะต่อข้างจะทำไว้ก่อนก็
00:14:53 → 00:14:55 ได้เพราะเราต้องทำภายในผิดว่าทีก็นั้นคุย
00:14:55 → 00:14:58 กับหมอเลยว่าแบบไม่ผิดปกติไหมแล้วคุณหมอ
00:14:58 → 00:15:01 ก็จะแนะนำเองแต่ผมขอนและนี่คือจะเอาเริ่ม
00:15:01 → 00:15:04 เห็นพฤติกรรมรูปเป็นอันตรายแล้วเช่นอาจจะ
00:15:04 → 00:15:07 กระโดดโลดเต้นหรือทำอะไรที่ไม่น่าจะทำได้
00:15:07 → 00:15:10 จะมีฉันจะเจอกานบอกให้รีบวิ่งมีทั้งนั้น
00:15:10 → 00:15:12 แล้วก็วิ่งซึ่งจะกอดอะไรกับเด็กตอนนั้น
00:15:12 → 00:15:14 น่ะเราจะต้องรีบพาไปหาหมอนิดนึงน่ะจะมี
00:15:14 → 00:15:16 อยู่ที่หรือเปล่าเล่งอี้วิธีการรักษาคือ
00:15:16 → 00:15:19 อะไรครับมึงขึ้นให้ท่านตามความรู้สึกนะ
00:15:19 → 00:15:21 เราก็จะรู้สึกว่าถ้าในหนังที่สอนเราหรือ
00:15:21 → 00:15:26 ต้องไปเข้าโรงพยาบาลใส่เสื้อรักฉีดยาเอา
00:15:26 → 00:15:30 หมอนบวกเหล็กข้อสมองและช็อตครับทำอะไร
00:15:30 → 00:15:33 อยู่ไหนกันแน่ๆเลยเนี้ยคือถ้าโบราณจะเป็น
00:15:33 → 00:15:35 เท่าไหร่กันจริงๆนะตั้งแต่จริงๆแล้วนะฮะ
00:15:35 → 00:15:38 ตอนจะมียารักษานะครับคือเมื่อสำคัญเอาถ้า
00:15:38 → 00:15:40 พูดพูดถึงเรื่องของเวลารักษาไงเลยละกัน
00:15:40 → 00:15:43 คือตรงนี้สมัยก่อนนู้นเอาตกไม่เรียกวิธี
00:15:43 → 00:15:46 รักษาชัดเจนหรอก็คือทำให้คนไข้สงบนี่คือ
00:15:46 → 00:15:48 เป้าหมายของการรักษาในอดีตเลยนะครับ
00:15:48 → 00:15:51 เที่ยงธรรมอย่างแรงให้สงบจะจับมัดหรือว่า
00:15:51 → 00:15:55 จะจับมาเธอทำไมมีโรงพยาบาลสำหรับคนที่
00:15:55 → 00:15:57 เป็นจิตเภทในยุโรปนะครับแล้วก็จะสร้างออก
00:15:57 → 00:16:00 มาแล้วพูดให้ก็เหมือนคุกนั่นแหละเธอมารวม
00:16:00 → 00:16:03 กันนะครับแล้วก็มีคนคอยคุมซึ่งก็คือมันจะ
00:16:03 → 00:16:06 เป็นหมอที่คอยดูแลนั่นแหละโหนี่มันปลาย
00:16:06 → 00:16:09 ทางมากใช่คือเหมือนพ่อเขาหูแว่วเขาก็
00:16:09 → 00:16:12 คลั่งอันนี้ก็เลยเลือกวิธีการนี่ก็ทำไง
00:16:12 → 00:16:15 ให้ไม่คลั่งใช่อาจจะช็อตให้มันเบลอไปจีบ
00:16:15 → 00:16:18 ยาให้เบอร์ไปไรบ้างมีได้หลายวิธีนะคะมีไง
00:16:18 → 00:16:21 บ้างคือตั้งแต่จะมาเอาน้ำแข็งมาปกให้ตัว
00:16:21 → 00:16:25 เย็นนะคะเราจะได้แบบเอออยู่นี่ morning ๆ
00:16:25 → 00:16:28 ครับเฮ้ยทำอะไรแบบก็ถ้าตอนช่วงที่มี
00:16:28 → 00:16:31 สุรินทร์ใหม่ๆถึง 5 ชิ้นสุรินทร์ก็มีนะ
00:16:31 → 00:16:33 ครับอินซูลินคือยาที่ทำให้น้ำตาลในเลือด
00:16:33 → 00:16:36 ลดลงก็ไม่เคยให้เบอร์เค้าก็คิดจะสนมน่ะ
00:16:36 → 00:16:38 เบื่อถนนแน่นอนเพราะไม่งั้นตาใช่ครับ
00:16:38 → 00:16:41 อันตรายมากวิธีใช้เวลาเป็นอย่างนี้รวมถึง
00:16:41 → 00:16:44 สมัยก่อนรู้ก็จะมีวิธีอาจจะมีการขีดให้
00:16:44 → 00:16:46 เลือดออกก็มีนะสมัยโบราณเลยมันก็มีวิธี
00:16:46 → 00:16:49 นี้เหมือนกันเขาคิดว่าเลื่อนในตัวไม่ดีก็
00:16:49 → 00:16:52 คิดให้เลือดออกอะไรแบบนั้นชื่อสมัยด่านะ
00:16:52 → 00:16:54 ครับแล้วจริงๆแล้วการรักษาควรจะยังไง
00:16:54 → 00:16:57 เพราะพี่หมอบอกว่าจุดกำเนิดมันน่าจะมาจาก
00:16:57 → 00:17:00 จะหมองตรงไหนต้องครับจนกระทั่ง
00:17:00 → 00:17:03 ๆอ้าวเป็นเหตุจะรีบมาเกินก็ไม่เชิงคือคน
00:17:03 → 00:17:06 ที่ค้นพบอย่าที่รักษาโรคจิตเภทอ่ะอย่าง
00:17:06 → 00:17:09 ตัวแรกเนี่ยจริงก็เป็นยาที่ใช้สำหรับคน
00:17:09 → 00:17:12 อาจารย์คนหมอที่พบแบบเป็นหมอผ่าตัดนะครับ
00:17:12 → 00:17:15 เธอก็ไม่ใช่ติดตามแท้นะครับคือเขาต้องการ
00:17:15 → 00:17:18 จะหายาที่ใช้ประกอบการผ่าตัดเพื่อของท่าน
00:17:18 → 00:17:21 ตลกแล้วก็ได้มาเอา 3 ตัวนึงมาใช้แล้วคุณ
00:17:21 → 00:17:24 ค่าซอยสงบดีเขาไม่โง่นอนโดยที่เขาไม่ไม่
00:17:24 → 00:17:27 ไม่หลับไปเลยอ่ะเขาก็จะสงบลงก็คิดว่า
00:17:27 → 00:17:31 อย่างนี้อาจจะได้ผลกับทางจิตเภทหน้าหายไป
00:17:31 → 00:17:33 เอามาลองใช้นะครับก็ได้สุดท้ายก็เป็นยา
00:17:33 → 00:17:36 รักษาจะเท่ห์ปัจจุบันข้างๆก็ดีขึ้นสงบลง
00:17:36 → 00:17:40 สนุกที่นี่คืออาการหูแว่วก็ดีขึ้นด้วยคือ
00:17:40 → 00:17:43 วิธีการมันคือไงฮะคือมันไม่เหมือนสงบใน
00:17:43 → 00:17:45 โรงพยาบาลที่บอกว่าทำให้สนุกในทาง Body
00:17:45 → 00:17:48 หรือความน่าคิดนะครับแต่นี่มันคือสงบโดย
00:17:48 → 00:17:51 ยังไงค่ะคือยาเนี่ยมันทำให้สมบูรณ์สมดุล
00:17:51 → 00:17:54 ของสารในสมองมันดีขึ้นแล้วก็ง่ายจะไม่
00:17:54 → 00:17:57 เคมีทำให้สายมัน Balance ขึ้นครับคือตอน
00:17:57 → 00:17:59 ที่คบอย่างเนี้ยเขายังไม่ทราบเหตุผลที่
00:17:59 → 00:18:01 แท้จริงนะว่าอยู่ส่วนไหนในสมองมันมากน้อย
00:18:01 → 00:18:04 ยังไงนะครับแต่ว่าด้วยความเออนี่แหละครับ
00:18:04 → 00:18:07 จนตอนหลังก็พบว่ายาตัวนี้มันทำให้เกิด
00:18:07 → 00:18:10 ความสมดุลในสมองดีขึ้นสารต่างๆก็หยุดแต่
00:18:10 → 00:18:12 ของเธอผมเคยได้เห็นว่าคนที่เขาแบบเหมือน
00:18:12 → 00:18:16 เป็นจิตเภทอย่างเงี้ยก็ ok ดีขึ้นแล้วชอบ
00:18:16 → 00:18:18 แล้วก็เคยเห็นว่าพอหยุดอย่ากลับมาเป็น
00:18:18 → 00:18:20 แล้วน่ะกว่าเดิมอะไรไอ้พวกนี้มันมีเหตุผล
00:18:20 → 00:18:23 นะฮะนี่ครับถ้าเกิดหยุดยาไม่ถูกวิธีนะ
00:18:23 → 00:18:25 ครับคือทำอะไรอยู่แข่งไทยใต้แพทย์เป็นคน
00:18:25 → 00:18:27 ให้ลดขนาดยาแล้วก็ตามันจะมีคนที่เขารู้
00:18:27 → 00:18:30 สึกว่าเพื่อนผมมีนะเขาต้องไปกินยาแล้วรู้
00:18:30 → 00:18:33 สึกว่าแบบมันดีขึ้นแล้วรู้สึกตัวเองได้
00:18:33 → 00:18:36 ว่าดีและอยากหยุดเพราะรู้สึกว่าไม่อยาก
00:18:36 → 00:18:38 เป็นคนผิดเพศไม่ใช่ไหมคะมันเป็นความรู้
00:18:38 → 00:18:41 สึกของเขาว่าให้ฉันหายแล้วก็อยากจะบังคับ
00:18:41 → 00:18:45 ตัวเองให้ไม่กินจะได้ตรวจผลจากสถานะความ
00:18:45 → 00:18:48 เป็นผู้ป่วยอะไรเงี้ยคือแบบนั้นน่ะเป็น
00:18:48 → 00:18:50 วิธีที่ผิดเลยนะที่เจอมาคือต้องเป็นแพทย์
00:18:50 → 00:18:53 จิตแพทย์เป็นคนปรับขนาดยาเท่านั้นนะครับ
00:18:53 → 00:18:57 อย่าไปอุตริทำเองนะครับเพราะว่าตรงนี้ทำ
00:18:57 → 00:19:00 ให้อาการกลับมาเหมือนเดิมเพ้อพอจะสามารถ
00:19:00 → 00:19:02 และอีกนะครับนี่แหละที่แบบถ้าสมุดกินยา
00:19:02 → 00:19:05 ไล่คุณหมอปรับขนาดให้ลดลงจนเลิกอันนี้จะ
00:19:05 → 00:19:08 บอกว่ามันสามารถหายขาดได้เลยมะคือหายขาด
00:19:08 → 00:19:11 อาจจะบอกย่างอาจจะไม่ทันหายขาดแต่อาการ
00:19:11 → 00:19:14 ทั่วไปดีขึ้นแพทย์อาจจะค่อยๆลดขนาดอย่าทำ
00:19:14 → 00:19:18 ก็แล้วแต่คนให้อีกนะครับอืมเออเนอะมันก็
00:19:18 → 00:19:22 จะบอกว่าดีขึ้นหายร้อยเปอร์เซ็นต์มันก็
00:19:22 → 00:19:25 พูดยากครับยิ่งเป็นสมองนี่มันก็ยิ่งแบบนะ
00:19:25 → 00:19:28 แล้วก็ดูดูมันไม่ได้ 2 มันไม่ได้แบบเต็ม
00:19:28 → 00:19:31 ที่นะครับเฮ้อและนี้พี่หมอมีอะไรอยากจะ
00:19:31 → 00:19:34 แนะนำให้เพราะว่าผมเชื่อว่าครับคนที่ดูแล
00:19:34 → 00:19:36 ผู้ป่วยจิตเภทโดยเฉพาะอาการหนักๆคิด
00:19:36 → 00:19:39 ประเภทต่างๆผมเหนื่อยนะถูกต้องมันเหมือน
00:19:39 → 00:19:42 คุยยังไม่รู้เรื่องครับก็คือเบื้องต้น
00:19:42 → 00:19:45 พันธุ์ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เลยคือคนไข้ไม่
00:19:45 → 00:19:48 ยอมรับและไม่ยอมมาโรงพยาบาลตอนนี้จะพบ
00:19:48 → 00:19:50 บ่อยมากเลยเพราะชอบรู้สึกให้ฉันไม่ได้บ้า
00:19:50 → 00:19:52 ถ้าไม่ต้องไปอะไรนี้ใช่ไหมครับเพราะ
00:19:52 → 00:19:56 ฉะนั้นยากเขาต้องทำยังไงมึงต้นนะครับก็
00:19:56 → 00:19:59 ตัวยาเองนี่แหละไปพบหมอก่อนเลยครับแล้ว
00:19:59 → 00:20:01 มันจะก็ยังไม่ต้องพาผู้ป่วยไปให้เกิดผล
00:20:01 → 00:20:04 ให้ไม่ยอมเอาจริงนะครับแต่ถ้าสามารถทำให้
00:20:04 → 00:20:06 มาได้น่ะดีที่สุดนะครับก็มาพวกจิตแพทย์
00:20:06 → 00:20:10 อย่างน้อยมาคุยนะครับเพราะว่าผมเชื่อว่า
00:20:10 → 00:20:14 ว่าเราอยู่ในยุคสมัยนี้แล้วปี 2021 แล้ว
00:20:14 → 00:20:17 เราต้องปรับความเชื่อปรับความเข้าใจแล้ว
00:20:17 → 00:20:19 ว่าการเป็นจิตเภทหรือมีอาการทางจิตไม่ได้
00:20:19 → 00:20:22 เป็นคนบ้าเขาแล้วได้เป็นทั้งหน้าตายนะ
00:20:22 → 00:20:25 ครับเพราะบางทีมันก็บางคนอย่างเงี้ยอาจ
00:20:26 → 00:20:27 อันนี้ส่วนหนึ่งหรือบางทีเรื่องโรคเครียด
00:20:27 → 00:20:30 อย่างนี้เราก็ไปหาจิตแพทย์ได้ต้องครับมัน
00:20:30 → 00:20:32 ยังเป็นมันเป็นความเชื่อสมัยกับโบราณมาก
00:20:32 → 00:20:36 เก่ามากที่ว่าแบบเฮ้ยเขียนเนี่ยไม่หามัน
00:20:36 → 00:20:38 จิตแพทย์เพี้ยนเปล่าบ้านเหรออะไรอย่าง
00:20:38 → 00:20:40 เงี้ยทำแต่งงานไม่ใช่เหรอใช่เดี๋ยวนี้ก็
00:20:40 → 00:20:43 ดีขึ้นเยอะทำเมื่อสัก 3-4 ปีแล้วคนจะคิด
00:20:43 → 00:20:46 แบบนั้นเยอะมากใช่ครับเออนะคะเนี่ยมาฝาก
00:20:46 → 00:20:50 กันครับแล้วจริงๆมีมีข้อมูลช่วงท้ายในที่
00:20:50 → 00:20:54 อยากจะมามามาฝากคุณผู้ฟังเพราะว่ามันเป็น
00:20:54 → 00:20:56 ข้อมูลที่เชื่อว่าคนไม่ค่อยรู้กันนะก็คือ
00:20:56 → 00:20:59 เรื่องของพรบสุขภาพจิตคุ้มครองสิทธิ์ผู้
00:20:59 → 00:21:04 ป่วยก็คือก่อนอื่นเนี่ยเบื่อมันเราพบเอา
00:21:04 → 00:21:08 เอาตัวเราเอาตัวเราแล้วกันหรือคนกับคน
00:21:08 → 00:21:10 ใกล้ชิดก็ได้ว่าเริ่มมีอาการทางจิตประเภท
00:21:10 → 00:21:14 เนี่ยจริงหลักๆมันแต่งเป็นสองส่วนส่วนแรก
00:21:14 → 00:21:17 คือเร่งด่วนกับส่วนที่สองคือไม่เร่งด่วน
00:21:17 → 00:21:20 ที่บ่อแยกให้หน่อยอันไหนอะไหนไม่เร่งอัน
00:21:20 → 00:21:23 ไหนเร่งคือถ้าไม่เร่งเช่นคนไข้อย่างพอจะ
00:21:23 → 00:21:27 ไม่ก่อปัญหากับตัวเองหรือกับคนรอบข้าแต่
00:21:27 → 00:21:29 แต่เริ่มพูดแล้วว่าเรื่องมีหาเริ่มเหี่ยว
00:21:29 → 00:21:32 อะไรแล้วเนี่ยเราอาจจะยากพาไปแพทย์หรือ
00:21:32 → 00:21:35 ว่ามีข้อแนะนำตามที่ระบุพรบใช่ไหมครับ
00:21:35 → 00:21:39 ครับก็คือถ้าถ้าเร่งด่วนเนี่ยแปลว่าเริ่ม
00:21:39 → 00:21:42 ทำร้ายผู้อื่นเริ่มก่ออันตรายแก่ตัวเอง
00:21:42 → 00:21:44 และผู้อื่นแต่ก็ไม่เร่งด่วนอาจจะแค่พูด
00:21:44 → 00:21:47 เนี่ยอันนี้ให้แยกเป็น 2 ส่วนเกาะครับถ้า
00:21:47 → 00:21:50 กรณีเร่งด่วนเนี่ยก็นำจากโรงพยาบาลได้เลย
00:21:50 → 00:21:54 นะฮะนำส่งแจ้งคุณหมอบุคลากรทางการแพทย์
00:21:54 → 00:21:57 และแล้วก็ส่วนกรณีไม่เร่งอยู่อันนี้ก็โทร
00:21:57 → 00:22:01 ไปปรึกษาเขาก่อน 1323 สายและสุขภาพจิตและ
00:22:01 → 00:22:04 เมื่อคุยกันเนี่ยอย่างน้อยคุณหมอในสาย
00:22:04 → 00:22:06 เนี่ยเขาจะช่วยคัดกรองๆก็อย่างนี้มาโรง
00:22:06 → 00:22:08 พยาบาลเลยอ่ะถูกต้องอย่างนี้ดูแลกันยังไง
00:22:08 → 00:22:11 ซึ่งไอ้สิ่งที่ผมพูดเพราะว่าอะไรเพราะว่า
00:22:11 → 00:22:16 มันมีมันมีเรื่องของการดูแลเขาแบบถูกต้อง
00:22:16 → 00:22:20 อยู่พรบสุขภาพจิตนี้จะสามารถคุ้มครองเขา
00:22:20 → 00:22:23 ได้ทั้งในแง่ของกระบวนการรักษาที่ถูกต้อง
00:22:23 → 00:22:27 หรือแม้กระทั่งตัวคนดูแลในเขาก็จะมีการอบ
00:22:27 → 00:22:29 รมกันอย่างอย่างดีเพราะว่าก็ต้องยอมรับ
00:22:29 → 00:22:32 แล้วว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับบ้าน
00:22:32 → 00:22:35 เราเรารู้ว่ามีโรคนี้อยู่กับแต่เราไม่มี
00:22:35 → 00:22:39 ความรู้ว่าจะดูแลอย่างให้เขาแบบให้เขา
00:22:39 → 00:22:42 อยู่กันปกติสุขครับเพราะมึงก็จะมีแบบนี้
00:22:42 → 00:22:45 เยอะนะครับก็อยากจะให้เฝ้าระวังอาการให้
00:22:45 → 00:22:49 กำลังใจกันไว้นะแล้วเมื่อเขาก็อาการดี
00:22:49 → 00:22:51 ขึ้นเนี่ยที่เขาสามารถจะใช้ชีวิตได้ปกติ
00:22:51 → 00:22:53 นะถูกต้องคือเรื่องทำงานอะไรได้หมดเลย
00:22:53 → 00:22:56 สมองความคิดว่าปกติพี่แต่ว่ามีแค่บางส่วน
00:22:56 → 00:23:00 ที่อาจจะมีเห็นภาพหลอนอะไรซึ่งได้อย่าก็
00:23:00 → 00:23:03 จะมาเป็นภาพปกติเลยจ่ายก็เข้าย้ำถ้าไม่
00:23:03 → 00:23:07 เร่งด่วนโดยปรึกษาก็ 1323 แต่ถ้าเร่งด่วน
00:23:07 → 00:23:11 ก็ 1969 ครับนะไอ้ 169 169 อันนี้เนี่ย
00:23:11 → 00:23:14 คือสายด่วนเพื่อสุขภาพอยู่แล้วที่ถ้าเร่ง
00:23:14 → 00:23:17 ด่วนก็จะจัดรถพยาบาลมารับถึงบ้านเลยครับ
00:23:17 → 00:23:20 อันนี้เอามาฝากกันไว้ครับพี่หมอมีอะไร
00:23:20 → 00:23:22 อย่างยิ่งท้ายไหมเริ่มตัวภาพจิตเรื่อง
00:23:22 → 00:23:25 เงียบเธอเมื่อกี้ประเด็นเรื่องคำพูดคำว่า
00:23:25 → 00:23:28 คนบ้าจริงๆตอนไหนตอนไหนอะไรมาผมไม่ค่อย
00:23:28 → 00:23:30 ชอบคำนี้เท่าไหร่กับมึงจริงแล้วเนี่ยเอ่อ
00:23:30 → 00:23:33 คำนี้ไม่ควรจะมีฉะนั้นผมจะทำนั้นเพราะว่า
00:23:33 → 00:23:37 จริงๆคนที่มองว่าเป็นคนบ้าซึ่งอาจจะทำ
00:23:37 → 00:23:40 อะไรผิดปกติจะเห็นท้องถนนแต่งตัวมอซอแล้ว
00:23:40 → 00:23:43 เดินแล้วก็ถืออะไรเยอะแยะที่หอยมีคนป่วย
00:23:43 → 00:23:46 นะครับเธอฉะนั้นเลยอยากให้เรามองคนกลุ่ม
00:23:46 → 00:23:49 นี้แล้วก็ช่วยแก้ปัญหาในสังคมถ้าพบขึ้น
00:23:49 → 00:23:51 แบบผิดปกติจะโทรสายด่วนเนี่ยที่ว่าก็ได้
00:23:51 → 00:23:54 กลับนะครับจะดีที่สุดที่ผมพูดไปคุณผู้ฟัง
00:23:54 → 00:23:56 อย่าเข้าใจผมผิดเรื่องที่ผมพูดเนี่ยเพราะ
00:23:56 → 00:23:59 ว่ามันเป็นคำที่จะพูดกันจริงๆครับหน้าเรา
00:23:59 → 00:24:01 ยอมรับแต่ว่าผมก็อยากจะยกประเด็นนี้ขึ้น
00:24:01 → 00:24:04 มาเหมือนกันนะครับยังไงฝากกันไว้ด้วยนะ
00:24:04 → 00:24:08 ครับคุณผู้ฟังมีคำถามหรือมีอะไรจะแนะนำ
00:24:08 → 00:24:11 ชี้แนะรายการของเราสามารถส่งมาได้เลยนะ
00:24:11 → 00:24:14 ครับในเพจ Facebook ของสามารถถอดแก๊สหรือ
00:24:14 → 00:24:17 ว่าบ้านะภาพดีทวีสุขก็ได้นะครับวันนี้เรา
00:24:17 → 00:24:22 สองคนลาไปก่อนสวัสดีครับดีครับ
00:24:22 → 00:24:23 [เพลง]
00:24:23 → 00:24:26 [ปรบมือ]
00:24:26 → 00:24:28 [เพลง]
00:24:28 → 00:24:30 โรคไขใครรู้
00:24:30 → 00:24:32 [เพลง]
00:24:32 → 00:24:35 ม.ค