00:00:00 → 00:00:02 พัฒนาการด้านการพูดของเด็กเริ่มตั้งแต่
00:00:02 → 00:00:06 ยังอยู่ในท้องแม่วิจัยที่จัดทำขึ้นในสเปน
00:00:06 → 00:00:09 ชี้ว่าไม่ว่าจะเป็นเสียงเพลงที่แม่ร้อง
00:00:09 → 00:00:12 ให้ลูกในท้องฟังการใส่หูฟังเพลงและเสียง
00:00:12 → 00:00:17 เพลงจลำพงส่งผลกับความสามาในการเข้ารหัส
00:00:17 → 00:00:20 สัญญาณประสาทของเสียงพูดซึ่งเกิดขึ้นใน
00:00:20 → 00:00:23 สมองส่งผลให้เมื่อคลอดออกมาแล้วพัฒนาการ
00:00:23 → 00:00:28 ด้านการพูดด็ดีกว่าเทียกับเด็ที่แไม่เพลง
00:00:28 → 00:00:33 ตอนโยแกสูติศาสตร์และนีเววิยาของรงพยาบาล
00:00:33 → 00:00:37 แหหนึในเมืบาร์ลประทสเปนเปรียบเทียบการ
00:00:37 → 00:00:40 บันทึกการตอบสนองต่อความถในทารกแรกเกิด 60
00:00:41 → 00:00:44 คนแล 29 คนได้ฟังเพลงทุกวันในช่วงก่อน
00:00:44 → 00:00:47 คลอดและอีก 31 คนไม่ได้ฟังเสียงดนตรี
00:00:47 → 00:00:50 ระว่างที่อยู่ในทองแม่ในช่วงเวลาเยวกันผล
00:00:50 → 00:00:54 ปรากฏว่าการที่เปิดรับเสียงดนตรีในทุกวัน
00:00:54 → 00:00:56 โดยเฉาะในช่วงเวลา 3 เดือนสุดท้ายของการ
00:00:56 → 00:01:02 ตั้งรทำให้การเข้ารัสิงในการูนภาขึ้นแล
00:01:02 → 00:01:05 การเข้ารัสดล่าเป็นเหมือนตัวช่วยอำนวย
00:01:05 → 00:01:08 ความสดวให้กับสองในการประมวผลและเรียนรู้
00:01:08 → 00:01:12 ภาษาแรกได้ง่ายขึ้นนักวิจัยผู้เขียนราย
00:01:12 → 00:01:15 งานชนนี้ระบว่าดนตรีเป็นสิ่งเรที่ส่ง
00:01:15 → 00:01:18 สัญญาณได้ถึงระบบการได้ยินด้วยความถี่ต่ำ
00:01:18 → 00:01:21 จึงช่วยฝึกการจัดระเบียบและเพิ่มความยืด
00:01:21 → 00:01:24 หยุ่นตัวของสมองนอกจากนี้การที่ทารกได้
00:01:24 → 00:01:28 ฟังเสียงดนตรีตั้งแต่ยอยู่ในแม่ไม่ส่งผ
00:01:28 → 00:01:31 ต่อความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแต่ส่ง
00:01:31 → 00:01:33 เสริมความสามารถในการประมวลผลทางการได้
00:01:33 → 00:01:37 ยินและการพูดได้เร็วและดีขึ้นซึ่งเป็นผล
00:01:37 → 00:01:40 ลัพธ์ที่เกิดขึ้นแบบเดียวกันกับการฝึกฝน
00:01:40 → 00:01:43 ทักษะด้านดนตรีที่ช่วยสร้างเครือข่าย
00:01:43 → 00:01:47 เยื่อไอชในโครงสร้างระบบประสาทสนับสนุน
00:01:47 → 00:01:52 โดย 7-eleven แมป่วนสนุกอย่าลืมกดติดตาม T
00:01:52 → 00:01:55 ทุกช่องทางออนไลน์เข้าถึงทุกสาระสุขภาพ
00:01:55 → 00:01:57 เสริมภูมิคุ้มกันรู้ทัน
00:01:57 → 00:02:00 โรค