00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องของ
00:00:02 → 00:00:05 การไอเรื้อรังนะครับว่ามันเกิดขึ้นได้
00:00:05 → 00:00:08 อย่างไรบ้างนะครับแล้วมันมีสาเหตุอะไรที่
00:00:08 → 00:00:11 ทำให้เราไอเรื้อรังนะครับพบกับผมนะครับ
00:00:11 → 00:00:13 นายแพทย์ธานีทศนิยวรรณนะครับเป็นอาจารย์
00:00:13 → 00:00:15 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญ
00:00:15 → 00:00:17 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:17 → 00:00:21 คำว่าไอเรื้อรังนั้นในทางการแพทย์เรานะ
00:00:21 → 00:00:24 ครับจะตัดสินกันที่ 2 เดือนถ้าเราไอนาน
00:00:24 → 00:00:27 เกิน 2 เดือนอันนั้นแปลว่าเราไอเรื้อรัง
00:00:27 → 00:00:30 แล้วนะครับมันน่าจะมีสาเหตุอะไรที่อยู่
00:00:30 → 00:00:33 กับเราตลอดเราไม่ได้หายไปไหนตรงนี้ก็เป็น
00:00:33 → 00:00:35 สิ่งหนึ่งซึ่งคนไข้จะมาหาว่าทำไมไอแล้ว
00:00:36 → 00:00:37 มันไม่หายสักทีนึงนะครับ
00:00:37 → 00:00:40 ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าการไอของ
00:00:40 → 00:00:42 เราเนี่ยเวลาในการวินิจฉัยวินิจฉัยทางการ
00:00:42 → 00:00:46 แพทย์เราจะบอกว่าการ I need ตัวมันเอง
00:00:46 → 00:00:48 ไม่ได้เป็นอันตรายอะไรเท่าไหร่นะครับแต่
00:00:48 → 00:00:51 ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดไอเนี่ยครับที่มัน
00:00:51 → 00:00:53 อาจจะอันตรายแล้วเราจำเป็นจะต้องไปหามัน
00:00:53 → 00:00:57 ให้เจอเพื่อที่จะแก้ไขนะครับในขั้นตอนการ
00:00:57 → 00:00:59 เกิดการไอนั้นจำเป็นจะต้องมีการกระตุ้น
00:00:59 → 00:01:03 เส้นรับรู้ก่อนแล้วหลังจากนั้นเส้นประสาท
00:01:03 → 00:01:05 เหล่านี้ก็จะส่งสัญญาณไปที่สมองสมองก็จะ
00:01:05 → 00:01:08 ส่งสัญญาณออกมาให้เรา I นะครับเส้นประสาท
00:01:08 → 00:01:10 ตรงนี้เนี่ยมันมีอยู่หลายที่เลยนะครับ
00:01:10 → 00:01:13 หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันมีในหลอดลมในปอด
00:01:13 → 00:01:15 เท่านั้นไม่ใช่นะครับมันมีอีกเยอะเลยใน
00:01:15 → 00:01:19 ช่องคอของเรานะครับช่องท้องกระเพาะหลอด
00:01:19 → 00:01:23 อาหารพวกนี้มีหมดเลยนะครับอ่ามีหมดเลย
00:01:23 → 00:01:25 นั้นแปลว่าถ้าเราไปกระตุ้นในของพวกนี้มัน
00:01:25 → 00:01:28 อาจจะทำให้เราไอได้นะครับไม่จำเป็นว่าจะ
00:01:28 → 00:01:31 ต้องทุบทุกอย่างไอมันเกิดจากเรื่องของทาง
00:01:31 → 00:01:33 เดินหายใจเสมอนะครับตรงนี้ต้องเข้าใจไว้
00:01:33 → 00:01:37 ก่อนอ่ะทีนี้เวลาที่เราคิดว่าทำไมเราถึง
00:01:37 → 00:01:40 ไอเรื้อรังได้เราคิดอย่างไรบ้างผมต้องบอก
00:01:40 → 00:01:41 อย่างนี้ก่อนเราจะแบ่งเป็นปัจจัยภายนอก
00:01:41 → 00:01:44 แล้วก็ปัจจัยภายในที่เกิดกับร่างกายเรา
00:01:44 → 00:01:46 เองเราได้รู้จักปัจจัยภายนอกกันก่อนนะ
00:01:46 → 00:01:49 ครับเพราะว่ามันง่ายกว่านะครับปัจจัยภาย
00:01:49 → 00:01:53 นอกนั้นมีในทางด้านของสิ่งแวดล้อมและอย่า
00:01:53 → 00:01:55 นะครับอ่ะเราเริ่มจากสิ่งแวดล้อมก่อนอะไร
00:01:55 → 00:01:59 ที่ทำให้เราไอได้ง่ายๆอากาศที่มันแห้งนะ
00:01:59 → 00:02:02 ครับลมที่มันพัดโดนหน้าเราตลอดเวลาฝุ่น
00:02:02 → 00:02:04 ต่างๆนะครับพวกนี้แหละครับมันจะทำให้เรา
00:02:04 → 00:02:07 มีการไอได้มากขึ้นดังนั้นถ้าเรามีการไอ
00:02:07 → 00:02:09 แล้วเราอยู่ในคนอยู่ในบริเวณที่มันแห้ง
00:02:09 → 00:02:12 มากๆหรือเราดื่มน้ำไม่เพียงพอพวกนี้ก็จะ
00:02:12 → 00:02:15 ไอได้มากขึ้นกว่าคนปกตินะครับการใช้เสียง
00:02:15 → 00:02:18 นานๆแน่นอนว่ามันก็ยิ่งทำให้คอเราแห้งสาย
00:02:18 → 00:02:20 สิญจน์พวกนี้มันก็จะแห้งบางคนก็จะไอเพิ่ม
00:02:20 → 00:02:23 ขึ้นได้นะครับนี่คือในเรื่องของสิ่งแวด
00:02:23 → 00:02:25 ล้อมนะฮะฝุ่นต่างๆพวกนี้ก็เหมือนกันหรือ
00:02:25 → 00:02:28 ไอระเหยต่างๆบางชนิดก็ทำให้เกิดการระคาย
00:02:28 → 00:02:31 เคืองแล้วเราก็จะไอได้ทีนี้มาถึงเรื่อง
00:02:31 → 00:02:34 ของยากันดีกว่านะครับมันจะมียาบางประเภท
00:02:34 → 00:02:37 ที่สามารถทำให้เราไอได้นะครับยกตัวอย่าง
00:02:37 → 00:02:40 เช่นยากลุ่ม acei acupiter นะครับ
00:02:40 → 00:02:42 antuture tensin converting Inside
00:02:42 → 00:02:45 in Heater นะครับพวกนี้มันเป็นยาที่ใช้
00:02:45 → 00:02:47 ในการลดความดันโลหิตนะครับยกตัวอย่างเช่น
00:02:47 → 00:02:50 อินาลาพริ้วนะครับลิสซิโนพริ้ว captopil
00:02:51 → 00:02:53 นะครับพวกที่มันลงท้ายด้วยพริ้วทั้งหลาย
00:02:53 → 00:02:56 แหล่นะครับก็จะเป็นยาในกลุ่มนี้โดยถ้า
00:02:56 → 00:02:58 เกิดว่ามันเกิดการไอจากยากลุ่มนี้แล้วล่ะ
00:02:58 → 00:03:01 ก็ส่วนมากนะครับมักจะเกิดหลังจากกินไปได้
00:03:01 → 00:03:04 แค่ไม่กี่วันบางคนกินในภายในอาทิตย์เดียว
00:03:04 → 00:03:07 ก็จะเกิดการไอละโดยคนที่เขาไอจากโรคนี้นะ
00:03:07 → 00:03:10 ครับจากยาตัวนี้เนี่ยมักจะรู้สึกเหมือน
00:03:10 → 00:03:12 คันคอแล้วมันต้องไอกับแอมออกมาเรื่อยๆนะ
00:03:12 → 00:03:16 ครับไอจนรำคาญเลยนะครับเนี่ยก็จะเป็นการ
00:03:16 → 00:03:18 ไอจากยาตัวนี้ได้นะครับถ้าเราเปลี่ยนชนิด
00:03:18 → 00:03:20 ยาเป็นตัวอื่นอาการไอเหล่านี้มันก็จะหาย
00:03:20 → 00:03:24 ไปอย่างรวดเร็วนะครับโดยเขาเชื่อว่ายาตัว
00:03:24 → 00:03:26 นี้มันไปเพิ่มระดับสารตัวหนึ่งชื่อว่า
00:03:26 → 00:03:29 brading ซึ่งตัวนี้เนี่ยมันจะทำให้เกิด
00:03:29 → 00:03:31 การระคายเคืองเราก็ไอได้นะครับโดยเฉพาะ
00:03:31 → 00:03:34 ถ้าท่านมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืดโรค
00:03:34 → 00:03:37 หลอดลมอยู่แล้วก็จะไอได้มากกว่าคนปกตินะ
00:03:37 → 00:03:40 ครับยาตัวอื่นซึ่งอาจจะทำให้เกิดการไอก็
00:03:40 → 00:03:42 คือยาที่มันสามารถทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้
00:03:42 → 00:03:46 นะครับยาอะไรที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนคนที่
00:03:46 → 00:03:49 ใช้ยาบำรุงกระดูกอยู่นะครับเช่นยากลุ่ม
00:03:49 → 00:03:51 บิ๊กฟอสฟอเนตอ่าตัวนี้เลยอันเลนส์โดเนท
00:03:51 → 00:03:53 ที่เรากินอาทิตย์ละครั้งเนี่ยแหละครับอ่า
00:03:53 → 00:03:56 ถ้าเรามีกรดไหลย้อนอยู่เนี่ยไอ้ยาตัวนี้
00:03:56 → 00:03:59 จะยิ่งไปกระตุ้นแล้วก็ยิ่งทำให้เรามีการ
00:03:59 → 00:04:02 ไอได้ง่ายขึ้นยากลุ่มแคลเซียม Channel
00:04:02 → 00:04:03 blocker ซึ่งเป็นยาลดความดันอีกประเภท
00:04:03 → 00:04:05 หนึ่งเหมือนกันนะครับพวกนี้บางทีมันทำให้
00:04:05 → 00:04:08 ตัวหูรูดของกระเพาะอาหารเรามันหย่อนนะ
00:04:08 → 00:04:10 ครับพอมันหย่อนมันคลายปุ๊บกรดที่อยู่ใน
00:04:10 → 00:04:12 กระเพาะเรามันก็ขึ้นมาได้ดังนั้นถ้าท่าน
00:04:12 → 00:04:15 กินอาญาพวกนี้อยู่อาจจะต้องไปปรึกษาคุณ
00:04:15 → 00:04:19 หมอนิดนึงนะฮะและยาอีกตัวหนึ่งซึ่งหลายคน
00:04:19 → 00:04:22 เนี่ยอาจจะไม่คิดถึงมันเลยก็เราด้วยซ้ำไป
00:04:22 → 00:04:26 นะครับคือยาโรคต้อหินตัวหนึ่งชื่อว่า
00:04:26 → 00:04:29 รัฐประโนโพรสนะครับมันเป็นยาหยอดตาเราก็
00:04:29 → 00:04:33 เฮ้ยเดี๋ยวยาหยอดตามันเกี่ยวอะไรกับไอนะ
00:04:33 → 00:04:35 ครับเกี่ยวเหมือนกันนะครับยาตัวนี้เนี่ย
00:04:35 → 00:04:38 มันเป็นยาเพราะสแกนดินตัวหนึ่งนะครับแล้ว
00:04:38 → 00:04:40 เวลาที่เราหยอดตรงตาเนี่ยตาเราจะมีท่อน้ำ
00:04:40 → 00:04:43 ตาลนะครับที่เชื่อมระหว่างตากับตัวจมูกนะ
00:04:43 → 00:04:45 ครับไอ้ยาตัวนี้มันสามารถเข้าไปในท่อนั้น
00:04:45 → 00:04:47 แล้วก็ไปสู่หลังคอเราได้ทำให้เราอายได้
00:04:47 → 00:04:50 ด้วยนะครับอ่าตัวนี้หลายๆคนก็อาจจะไม่
00:04:50 → 00:04:52 ทราบนะครับเอาจริงๆท่อตัวนี้ก็เป็นสาเหตุ
00:04:52 → 00:04:55 เหมือนกันนะครับว่าทำไมเวลาเราร้องไห้
00:04:55 → 00:04:57 แล้วต้องมีน้ำมูกด้วยนะครับก็เพราะว่าไอ้
00:04:57 → 00:04:59 น้ำตาลเนี่ยมันลงไปในท่อตัวเนี้ยแล้วมัน
00:04:59 → 00:05:01 ก็ไม่ได้จมูกนั่นแหละครับกลายมาเป็นน้ำ
00:05:01 → 00:05:02 มูกให้เรา
00:05:02 → 00:05:05 อันนั้นก็จะเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆนะ
00:05:05 → 00:05:09 ครับเรื่องของยาทีนี้เรื่องของปัจจัยภาย
00:05:09 → 00:05:12 นอกไปละสิ่งแวดล้อมเรื่องยาไปแล้วปัจจัย
00:05:12 → 00:05:14 ภายในอะไรล่ะที่ทำให้เรามีอาการไอ
00:05:14 → 00:05:17 เรื้อรังได้แบบนั้นที่เราพบบ่อยๆเลยนะ
00:05:17 → 00:05:20 ครับก็คือเป็นการที่เรามีภูมิแพ้และมีน้ำ
00:05:20 → 00:05:22 มูกไหลลงไปในคอหรือภาษาอังกฤษเราจะเรียก
00:05:22 → 00:05:25 ว่าโพสต์นะครับโดยเราอาจจะรู้ตัวหรือไม่
00:05:25 → 00:05:28 รู้ตัวก็ได้นั่นคือปัญหาเพราะว่าบางคนบอก
00:05:28 → 00:05:31 หมอถามประวัติเอ๊ะมีอะไรไหลลงคอมีคันคอ
00:05:31 → 00:05:35 อะไรไหมไม่มีนะครับแต่ว่าพอเราส่องดูหลัง
00:05:35 → 00:05:38 พอเราจะเห็นว่าเอ๊ะมันเป็นปุ่มๆๆทางภาษา
00:05:38 → 00:05:39 ทางการแพทย์เราจะเรียกว่า Common Store
00:05:39 → 00:05:41 หรือบางครั้งเราเห็นเลยว่ามันมีน้ำมูกที่
00:05:41 → 00:05:43 มันไหลลงไปในคอแต่คนไข้ไม่รู้สึกนะครับ
00:05:43 → 00:05:47 พวกเนี้ยก็จะทำให้เกิดการไอที่มันมาจาก
00:05:47 → 00:05:50 ทางเดินอากาศส่วนบนในภาษาทางการแพทย์เรา
00:05:50 → 00:05:53 ก็จะมีโรคอันนึงซึ่งเรียกว่า After
00:05:53 → 00:05:55 Airway Clock Syndrome นะครับพวกนี้
00:05:55 → 00:05:57 วิธีการรักษาเนี่ยง่ายมากๆใช้ยา
00:05:57 → 00:05:59 สเตียรอยด์พ่นจมูกเราก็แก้ไขเรื่องนี้นะ
00:05:59 → 00:06:02 ครับรักษาเหมือนโรคภูมิแพ้อาการมันควรจะ
00:06:02 → 00:06:04 ใช้เวลาประมาณสัก 2 อาทิตย์ถึง 3 อาทิตย์
00:06:04 → 00:06:06 ถึงจะเริ่มดีขึ้นนะครับในช่วง 2 อาทิตย์
00:06:06 → 00:06:08 แรกถ้ามันยังไม่ดีขึ้นไม่ต้องกังวลนะครับ
00:06:08 → 00:06:11 ไม่ต้องกังวลนะฮะบางคนใช้เวลาถึงเดือนนึง
00:06:11 → 00:06:13 ด้วยซ้ำไปกว่าจะเริ่มดีขึ้นดังนั้นในช่วง
00:06:13 → 00:06:16 แรกที่ไม่ได้ผลไม่เป็นไรนะครับเราดูอาการ
00:06:16 → 00:06:19 ไปก่อนนะครับแล้วก็แน่นอนเราต้องไปหลีก
00:06:19 → 00:06:21 เลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้ด้วยนะครับ
00:06:21 → 00:06:24 ซึ่งผมก็ได้พูดรายละเอียดไปแล้วในคลิป
00:06:24 → 00:06:25 เรื่องเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ว่าจะต้องทำ
00:06:25 → 00:06:28 ยังไงท่านก็ลองไปฟังรายละเอียดในคลิปนั้น
00:06:28 → 00:06:32 ดูนะครับต่อมาอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งเราเจอ
00:06:32 → 00:06:34 ได้บ่อยๆที่เป็นเหตุผลของการไอเรื้อรังก็
00:06:34 → 00:06:37 คือเรื่องของกรดไหลย้อนนะครับ
00:06:37 → 00:06:40 กรดไหลย้อนนั้นต้องทำความเข้าใจให้ถูก
00:06:40 → 00:06:43 ต้องก่อนนะครับว่าไม่จำเป็นจะต้องมีอาการ
00:06:43 → 00:06:47 แสบร้อนหน้าอกไม่จำเป็นต้องมีอาการนั้น
00:06:47 → 00:06:49 ท่านก็เป็นกรดไหลย้อนได้นะครับเพราะว่า
00:06:49 → 00:06:52 บางคนเนี่ยหมอบอกว่าเอ๊ะทำไมไอเยอะๆเนี่ย
00:06:52 → 00:06:57 เอาเอายาลดกรดไปกินท่านก็งงว่าฉันไม่ได้
00:06:57 → 00:06:58 มีโรคกระเพาะสักหน่อยไม่ได้เห็นแสบร้อง
00:06:58 → 00:07:00 ไม่ได้แน่นหน้าอกอะไรสักหน่อยให้ยานี้มัน
00:07:00 → 00:07:02 ทำไมมันไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับการไอมัน
00:07:02 → 00:07:05 เกี่ยวมากนะครับเพราะว่ากรดไหลย้อนเนี่ย
00:07:05 → 00:07:07 กรดเพียงแค่ 1 หยดก็สามารถทำให้ท่านเกิด
00:07:07 → 00:07:10 การไอเรื้อรังได้แล้วแต่กรดเพียงแค่ 1
00:07:10 → 00:07:12 หยดนี้มันไม่ได้ทำให้ท่านรู้สึกแสบร้อน
00:07:12 → 00:07:13 หน้าอกหรอกครับมันไม่ทำให้เกิดการแน่น
00:07:13 → 00:07:18 แล้วจริงๆมันมีการศึกษาว่าเราเนี่ยคนที่
00:07:18 → 00:07:20 มีกรดไหลย้อนนะครับมีแค่เพียงประมาณ 1 ใน
00:07:21 → 00:07:24 3 เท่านั้นเองที่มีอาการแสบร้อนหน้าอก
00:07:24 → 00:07:27 นะครับคนที่ไปเกือบไหลย้อนที่นำไปสู่การ
00:07:27 → 00:07:29 ไอเรื้อรังเนี่ยมีเพียงแค่ 1 ใน 3 เท่า
00:07:29 → 00:07:32 นั้นเองที่มีอาการแสบร้อนหน้าอกเหมือนคน
00:07:32 → 00:07:34 เป็นโรคกระเพาะเหมือนคนเป็นโรคกรดไหลย้อน
00:07:34 → 00:07:37 นะครับดังนั้นเวลาที่หมอเขาดูปัจจัยภาย
00:07:37 → 00:07:39 นอกแล้วไม่เจอเนี่ยเขามักจะรักษา 2 ภาวะ
00:07:39 → 00:07:43 นี้ก่อนนะครับอ่ารักษา 2 ภาวะนี้ก่อนแล้ว
00:07:43 → 00:07:45 เริ่มกรดไหลย้อนของเคยพูดรายละเอียดไป
00:07:45 → 00:07:47 แล้วว่าเราจะต้องทำยังไงให้มันหายนะครับ
00:07:47 → 00:07:49 เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไรบ้างก็
00:07:49 → 00:07:51 ย้อนกลับไปดูคลิปเรื่องของกรดไหลย้อนอีก
00:07:51 → 00:07:54 ทีนึงนะครับส่วนยาเรื่องกรดไหลย้อนนะส่วน
00:07:54 → 00:07:56 ใหญ่จะต้องกินประมาณสักเดือนนึงถึงจะ
00:07:56 → 00:07:58 เริ่มรู้สึกว่ามันเออเรื่องของการไอ่พวก
00:07:58 → 00:08:00 นี้มันดีขึ้นเหตุผลที่มันใช้เวลาก็เพราะ
00:08:00 → 00:08:03 ว่าเวลาที่มันมีการไปกระตุ้นจะกรดหรือว่า
00:08:03 → 00:08:05 จากไอ้น้ำมูกที่ไหลลงไปเรื่อยๆเนี่ยมันทำ
00:08:05 → 00:08:07 ให้เกิดการอักเสบนะครับการอักเสบนี่มัน
00:08:07 → 00:08:10 เรื้อรังเราก็ต้องรอให้มันหายนะครับไม่
00:08:10 → 00:08:12 ใช่ว่าเรากินยาหรือใช้พ่นยาเข้าจมูกเรา
00:08:12 → 00:08:15 ลุกวันรุ่งขึ้นมันหายอักเสบเลยไม่ใช่ครับ
00:08:15 → 00:08:18 แผลพวกนี้มันต้องใช้เวลาในการหายนะครับ
00:08:18 → 00:08:21 คือต้องอยากให้มีอะไรไปรบกวนอย่าให้มีกรด
00:08:21 → 00:08:23 ไปโดนมันอย่าให้มีฝุ่นไปโดนมันนะครับมัน
00:08:23 → 00:08:26 ถึงจะเริ่มสมานตัวนะครับก็เหมือนกับเรา
00:08:26 → 00:08:29 เราไปหกล้มถูกไหมครับหกล้มปุ๊บแผลเราพวก
00:08:29 → 00:08:32 นี้ไม่หายเนี่ยใช่ไหมฮะถ้าแผลมันไม่หาย
00:08:32 → 00:08:35 มันก็ต้องใช้เวลาในการเยียวยาจนกระทั่ง
00:08:35 → 00:08:37 แผลมันหายมันถึงจะหายเจ็บนะแต่ถ้าระหว่าง
00:08:37 → 00:08:39 ที่แผลมันยังไม่หายแล้วท่านเอามือไปขูด
00:08:39 → 00:08:42 มันอยู่เรื่อยๆนะครับไปล้มอีกทีนึงหรือมี
00:08:42 → 00:08:45 คนเอาเกลือมาโดนแผลเนี่ยมันก็ยังจะเจ็บ
00:08:45 → 00:08:48 เหมือนเดิมต่อให้ท่านกินยาแก้ปวดอะไรแผล
00:08:48 → 00:08:50 มันก็ยังเจ็บเหมือนเดิมถูกไหมครับอ่ะนั่น
00:08:50 → 00:08:52 ก็คือหลักการเดียวกันทีนี้ถ้าไม่ใช่ไอ้ 2
00:08:52 → 00:08:55 อย่างนี้แล้วล่ะมันมีอะไรที่ทำให้เกิดการ
00:08:55 → 00:08:58 ไอเรื้อรังได้อีกโอ้มีอีกเยอะเลยโรคแรกก็
00:08:58 → 00:09:02 คือโรคหอบหืดนะครับเพราะขอบผืนนั้นทุกคน
00:09:02 → 00:09:05 จะไม่มีอาการเหมือนคนหอบหืดแต่จะมาด้วย
00:09:05 → 00:09:08 อาการไอเรื้อรังอย่างเดียวเลยไอแห้งๆนี่
00:09:08 → 00:09:10 แหละครับหรือบางคนรู้สึกว่ามันมีเสมหะที่
00:09:10 → 00:09:12 เหนียวมากๆแต่ว่ามันไอไม่ออกสักทีนะครับ
00:09:12 → 00:09:14 นี่ก็คือโรคหอบหืดชนิดหนึ่งเหมือนกันที่
00:09:14 → 00:09:17 เป็นแบบนี้นะครับส่วนบางคนก็จะมีอาการชัด
00:09:17 → 00:09:19 เจนคือหายใจแล้วรู้สึกมันเหนื่อยมันแน่น
00:09:19 → 00:09:22 หน้าอกมีเสียงวี๊ดๆอยู่ในข้างในนะครับอ่า
00:09:22 → 00:09:25 พวกนี้ก็คือชัดเจนว่าน่าจะเป็นโรคหอบหืด
00:09:25 → 00:09:27 แต่ว่าไปตรวจหมอก็จะรู้ว่าเฮ้ยอันนี้เป็น
00:09:27 → 00:09:29 หรือไม่เป็นนะครับ
00:09:29 → 00:09:33 ทีนี้ถ้าไม่ใช่ 3 โลกนี้ล่ะมีอีกหลายโรค
00:09:33 → 00:09:35 เลยครับที่สามารถทำให้เป็นแบบนี้ได้ยกตัว
00:09:36 → 00:09:38 อย่างอันหนึ่งซึ่งอาจจะไม่ค่อยมีคนรู้จัก
00:09:38 → 00:09:40 นะครับอาการเนี่ยจะคล้ายโรคหอบหืดนะครับ
00:09:40 → 00:09:44 มันจะชื่อว่านอนแอสมาติกอีโว Snow philix
00:09:44 → 00:09:47 ตรงไทยติดนะครับอ่าเฮ้ยชื่อมันยาวคืออะไร
00:09:47 → 00:09:49 เนี่ยไม่รู้จักเลยนะครับไม่ต้องเป็นห่วง
00:09:49 → 00:09:52 มันง่ายมากครับลักษณะที่มันเหมือนกับหอบ
00:09:52 → 00:09:55 หืดอย่างเดียวเลยก็คือมันมีเม็ดเลือดขาว
00:09:55 → 00:09:57 ชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า eoshino fill
00:09:57 → 00:10:01 เนี่ยเยอะขึ้นในทางเดินหายใจนะครับแล้ว
00:10:01 → 00:10:03 เราจะตรวจได้ยังไงอ่ะเราไม่เอามือล้วง
00:10:03 → 00:10:05 เข้าไปจิ้มเอามาตรวจนะครับไม่ได้แบบนั้น
00:10:05 → 00:10:09 เรามีวิธีในการตรวจลมหายใจนะครับแล้วตรวจ
00:10:09 → 00:10:11 ลมหายใจเนี่ยเราจะเจอว่าระดับไนตริก
00:10:11 → 00:10:13 ออกไซด์ซึ่งเม็ดเลือดขาวตัวนี้มันสร้าง
00:10:13 → 00:10:16 มันจะสูงมากขึ้นถ้ามันสูงสูงเลยเนี่ยครับ
00:10:16 → 00:10:19 แล้วเราไปตรวจว่ามันไม่มีอาการโรคหอบหืด
00:10:19 → 00:10:21 อย่างอื่นนะเราก็วินิจฉัยว่าเป็นโรคพวก
00:10:21 → 00:10:23 นี้วิธีการรักษาเนี่ยเหมือนกันคือใช้
00:10:23 → 00:10:25 สเตียรอยด์พ่นแล้วมันก็จะดีขึ้นนะครับโดย
00:10:25 → 00:10:29 สามารถที่จะตรวจติดตามเรื่องของ eocenop
00:10:29 → 00:10:31 ด้วยการหายใจแล้วก็วัดค่าออกมาได้นะครับ
00:10:31 → 00:10:34 ตรงนี้จะเป็นตัวบอกแล้วว่าเฮ้ยอ่ามันใช้
00:10:34 → 00:10:36 โรคนี้จริงหรือเปล่านะครับ
00:10:36 → 00:10:40 คือโรคหอบหืดที่เรียกว่าแอสมาจะต้องมีการ
00:10:40 → 00:10:42 ตอบสนองที่ผิดปกติของตัวหลอดลมส่วนล่าง
00:10:42 → 00:10:46 ด้วยนะครับแต่โรคนอนแอสเมติก EOS lovelic
00:10:46 → 00:10:49 from hytic ตัวนี้จะมีการตอบสนองของ
00:10:49 → 00:10:53 หลอดลมส่วนล่างที่ปกติปกตินะครับ
00:10:53 → 00:10:55 ดังนั้นตรงนี้เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งเราใช้ใน
00:10:55 → 00:10:57 การแยกตรงนี้ท่านไม่ต้องจำชื่อโรคหรอก
00:10:57 → 00:11:00 ครับแต่ว่าเรารู้ว่ามันเป็นโรคแบบนี้แล้ว
00:11:00 → 00:11:02 เราสามารถที่จะไปตรวจหาได้นะครับว่าเฮ้ย
00:11:02 → 00:11:05 มันเป็นโรคอะไรนะครับ
00:11:05 → 00:11:08 นอกเหนือจากนี้โรคของตัวปอดเองก็ยัง
00:11:08 → 00:11:11 สามารถทำให้เราเกิดการไอเรื้อรังได้เช่น
00:11:11 → 00:11:14 อะไรบ้างถ้าท่านมีถุงลมโป่งพองบางคนก็อาย
00:11:14 → 00:11:17 เรื้อรังนะครับหลอดลมอักเสบเรื้อรังก็ไอ
00:11:17 → 00:11:21 ได้นะครับหรือเรามีหลอดลมโป่งพองที่เรียก
00:11:21 → 00:11:24 ว่า brom cxes พวกนี้นะครับก็ไอได้ซึ่ง
00:11:24 → 00:11:26 ผมเคยทำคลิปเรื่องพวกนี้ไปหมดแล้วท่านก็
00:11:26 → 00:11:29 สามารถไปทบทวนเองได้หรืออีกกรณีนึงก็คือ
00:11:29 → 00:11:33 มีพังผืดอยู่ในปอดจากสาเหตุต่างๆอันนี้ก็
00:11:33 → 00:11:36 เป็นส่วนหนึ่งซึ่งทำให้เราหายได้นะครับ
00:11:36 → 00:11:38 ผังผืดปอดที่ทำให้ไอได้เนี่ยมักจะต้อง
00:11:38 → 00:11:41 เป็นพังผืดปอดที่มันมีทั้ง 2 ข้างนะครับ
00:11:41 → 00:11:45 มีทั้งสองข้างและจะบอกไว้เลยนะครับว่ายา
00:11:45 → 00:11:49 ที่ได้ผลในการรักษาอาการไอในคนที่เป็นผัง
00:11:49 → 00:11:52 ผืดปอดจะเป็นยาที่หลายๆคนไม่รู้จักแล้วก็
00:11:52 → 00:11:55 ไม่คาดคิดเลยว่าเอามาใช้ในโรคนี้นั่นก็
00:11:55 → 00:11:59 คืออย่ากราบไหว้แผ่นดินกับยาผลิกซึ่งมัน
00:11:59 → 00:12:02 ใช้ในการแก้ไขหลอดเส้นประสาทส่วนปลาย
00:12:02 → 00:12:06 อักเสบแต่ในกรณีนี้มันสามารถใช้ในการลด
00:12:06 → 00:12:08 การไอของคนไข้ที่มีโรคพังผืดปอดได้ด้วย
00:12:08 → 00:12:09 ครับ
00:12:09 → 00:12:12 อีกอย่างหนึ่งที่เราเจอบ่อยๆในคนอายุเยอะ
00:12:12 → 00:12:16 ก็คือการสำลักเข้าไปในปอดโดยอาจจะเห็นคน
00:12:16 → 00:12:19 ไข้สำลักหรืออาจจะไม่เห็นก็ได้นะครับดัง
00:12:19 → 00:12:21 นั้นตรงนี้ต้องระวังนะครับโดยเฉพาะคนที่
00:12:21 → 00:12:23 นอนติดเตียงนะครับเคยเป็น Stroke ซะเลย
00:12:23 → 00:12:25 สมองตีบแตกหรือตันมาก่อนพวกนี้ก็จะมี
00:12:25 → 00:12:28 โอกาสที่จะสำลักเข้าไปได้มากขึ้นหรือคน
00:12:28 → 00:12:31 ที่เป็นพาร์กินสันระยะคล้ายๆที่ขยับตัว
00:12:31 → 00:12:33 ลำบากมากๆแล้วพวกนี้ก็จะสำลักได้ง่ายก็จะ
00:12:33 → 00:12:36 เป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีอาการไอเรื้อรัง
00:12:36 → 00:12:39 นะครับนอกเหนือจากนี้ยังมีการติดเชื้อใน
00:12:39 → 00:12:43 ปอดที่มันทำให้เกิดการ I เรื้อรังได้นะ
00:12:43 → 00:12:45 ครับการติดเชื้อในปอดที่ทำให้ไอเรื้อรัง
00:12:45 → 00:12:48 ที่แน่นอนทุกคนเนี่ยจะต้องเคยได้ยินชื่อ
00:12:48 → 00:12:51 ก็คือวัณโรคนะครับแล้ววัณโรคในคนไทยเนี่ย
00:12:51 → 00:12:53 มันเจอเยอะซะด้วยดังนั้นเนี่ยทั่วๆไปเวลา
00:12:53 → 00:12:56 เจอหมอเนี่ยนะครับเขาเป็นพวกนี้เขาจะต้อง
00:12:56 → 00:12:57 เอ็กซเรย์ปอดดูก่อนว่าเฮ้ยมันมีวัณโรค
00:12:57 → 00:13:00 หรือเปล่านะถ้ามีเนี่ยเฮ้ยเราจะต้องจัด
00:13:00 → 00:13:04 การก่อนเลยงั้นไม่หายไอนะครับแต่การ
00:13:04 → 00:13:05 เอ็กซเรย์ปอดอย่างเดียวเนี่ยมันไม่ได้บอก
00:13:05 → 00:13:07 หรอกครับว่าเราไม่มีวัณโรค 100% เต็ม
00:13:07 → 00:13:10 เพราะว่ามันจะมีวัณโรคบางบริเวณที่ทำให้
00:13:10 → 00:13:13 เราเกิดการไอแล้วเอ็กซเรย์ปอดปกตินั่นก็
00:13:13 → 00:13:16 คือวัณโรคที่กล่องเสียงหรือสายเสียงเหล่า
00:13:16 → 00:13:18 นั้นเองนะครับแหม่แต่พวกนี้อาจจะมีเสียง
00:13:18 → 00:13:20 ที่มันเปลี่ยนแปลงไปก็ได้นะครับ
00:13:21 → 00:13:23 แล้วเมื่อกี้เราพูดนิดนึงคือเรื่องกรดไหล
00:13:23 → 00:13:25 ย้อนเนี่ยบางคนก็จะมีเสียงเปลี่ยนด้วย
00:13:25 → 00:13:27 เพราะว่าไอ้ตัวกรดมันไปกัดกร่อนโดนสาย
00:13:27 → 00:13:29 เสียงเราเรื่อยๆทำให้เสียงเรามันเปลี่ยน
00:13:29 → 00:13:31 แปลงได้นะครับดังนั้นก็เป็นอันนึงที่ผม
00:13:31 → 00:13:34 เมื่อกี้พอดีลืมพูดไปนะก็พูดเสริมเท่านี้
00:13:34 → 00:13:37 เลยดีกว่านะครับทีนี้เรื่องของปอดเนี่ย
00:13:37 → 00:13:41 วัณโรคแล้วเชื้ออื่นๆก็สามารถทำให้เรา
00:13:41 → 00:13:43 อาการไอเรื้อรังได้นะครับเช่นเชื้อราบาง
00:13:43 → 00:13:45 ชนิดก็ทำให้เราไอเรื้อรังได้นะครับตรงนี้
00:13:45 → 00:13:48 ก็ต้องไปดูหรือคนที่มีสีนี้ปอดเนี่ยฝีที่
00:13:48 → 00:13:50 ปอดพวกนี้นะครับหรือคนที่มีติดเชื้ออะไร
00:13:50 → 00:13:52 สักอย่างในปอดแบบเรื้อรังเนี่ยบางครั้ง
00:13:52 → 00:13:54 เนี่ยนอกเหนือจากอาการไอแล้วยังมีอาการ
00:13:54 → 00:13:58 อื่นเช่นมีอาการอ่อนเพลียง่ายนะครับน้ำ
00:13:58 → 00:14:00 หนักลดเรื่อยๆทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจ
00:14:00 → 00:14:03 จะไดเอทนะครับหรือมีไข้ต่ำๆในเวลากลางคืน
00:14:03 → 00:14:06 เหงื่อออกเยอะๆในเวลากลางคืนนะเบื่ออาหาร
00:14:06 → 00:14:08 พวกนี้นะครับคือจะมีอาการมาเป็นชุดเป็น
00:14:08 → 00:14:10 ชุดอย่างเงี้ยนะครับที่มันสามารถทำให้
00:14:10 → 00:14:14 เกิดการไอเรื้อรังแบบนี้ได้นะครับและแน่
00:14:14 → 00:14:16 นอนโรคยอดฮิตที่ไม่พูดก็ไม่ได้ก็คือ
00:14:16 → 00:14:20 มะเร็งปอดนะครับอย่างที่ตอนนั้นเนี่ยเคย
00:14:20 → 00:14:22 ที่คุณหมอกฤษณ์ไทยใช่ไหมครับที่ออกมา
00:14:22 → 00:14:25 โพสต์ Facebook ว่าตัวเขาเองเนี่ยต่อให้
00:14:25 → 00:14:27 แบบอายุน้อยหนุ่มแข็งแรงเล่นกีฬาทุกวัน
00:14:27 → 00:14:30 เจอเป็นมะเร็งปอดแต่ถ้าไปสังเกตดูดีๆคืน
00:14:30 → 00:14:32 คุณหมอเขาจะมีอาการไอเรื้อรังมาอยู่สัก
00:14:32 → 00:14:35 ระยะหนึ่งนะครับแล้วทีนี้คนก็สงสัยแล้วสิ
00:14:35 → 00:14:37 เฮ้ยฉันไอเรื้อรังฉันเป็นมะเร็งหรือเปล่า
00:14:37 → 00:14:40 ต้องบอกอย่างนี้ครับโชคดีอย่างหนึ่งว่า
00:14:40 → 00:14:43 ไอ้มะเร็งปอดที่ทำให้เกิดการไอเนี่ยคนที่
00:14:43 → 00:14:45 ไอเรื้อรังทั้งหมดนะครับถ้าเอา 100 คนที่
00:14:45 → 00:14:47 เป็นอาการไอเรื้อรังเกิน 2 เดือนขึ้นไปมา
00:14:48 → 00:14:50 ดูนี่นะครับมันจะมีเพียงแค่ 2% หรือน้อย
00:14:50 → 00:14:51 กว่านั้นเท่านั้นแหละครับที่เกิดจาก
00:14:51 → 00:14:55 มะเร็งปอดนะครับดังนั้นแปลว่ามะเร็งปอด
00:14:55 → 00:14:57 ไม่ใช่สาเหตุหลักของการไอเรื้อรังนะครับ
00:14:57 → 00:15:00 อ่าแล้วไอ้มะเร็งปอดที่ทำให้เกิดการไอ
00:15:00 → 00:15:02 เรื้อรังเนี่ยถ้าสมมุติโชคร้ายเป็นขึ้นมา
00:15:02 → 00:15:04 เนี่ยมันมักจะเป็นมะเร็งที่อยู่ในทางเดิน
00:15:04 → 00:15:07 หายใจนะครับหรือหลอดลมใหญ่ๆของเรานะเพราะ
00:15:07 → 00:15:10 ว่าไอ้ตัวเส้นประสาทที่รับการไอเนี่ยมัน
00:15:10 → 00:15:12 อยู่ตรงนั้นพอดีนะครับงั้นก็มักจะเป็น
00:15:12 → 00:15:15 มะเร็งที่มันอยู่ตรงกลางใหญ่ๆนะครับในใน
00:15:15 → 00:15:17 ทางเดินอากาศส่วนใหญ่นะครับนั่นก็คือโรค
00:15:17 → 00:15:20 ปอดที่ทำให้เกิดการไอเรื้อรังได้นะครับ
00:15:20 → 00:15:24 อ่านอกเหนือไปจากเรื่องของหอบหืดที่เรา
00:15:24 → 00:15:28 เจอบ่อยๆแล้วทีนี้มันก็ยังมีเหตุผลอื่น
00:15:28 → 00:15:30 ที่ทำให้เกิดการไอเรื้อรังพวกนี้ได้อีกนะ
00:15:30 → 00:15:32 ครับที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับปอดบ้าง
00:15:32 → 00:15:36 เช่นโรคหัวใจวายและมีน้ำท่วมปอดนะครับบาง
00:15:36 → 00:15:38 คนเนี่ยน้ำท่วมปอดมันไม่ได้ท่วมแบบเยอะๆ
00:15:38 → 00:15:41 นะครับมันท่วมแบบก้ำกึ่งก้ำกึ่งอาจจะมีขา
00:15:41 → 00:15:44 บวมมากๆบ้างเล็กๆน้อยๆนะครับคนพวกนี้บาง
00:15:44 → 00:15:46 คนก็จะมีอาการไอเรื้อรังได้นะครับก็ต้อง
00:15:46 → 00:15:50 ไปแก้ไขหรือบางคนอันนี้อาจจะเจอยากหน่อย
00:15:50 → 00:15:54 แต่ว่ามันสามารถเป็นไปได้ก็คือคนที่มี
00:15:54 → 00:15:57 ลิ้นหัวใจ 10 ผิดปกติมันตันมากๆนะครับโดย
00:15:57 → 00:15:59 เฉพาะลิ้นใหม่ตรอกนะครับเป็นลิ้นที่อยู่
00:16:00 → 00:16:01 ระหว่างห้องบนซ้ายกับห้องล่างซ้ายนะครับ
00:16:01 → 00:16:04 ชื่อแปลกๆนะไม่ต้องสนใจมากนะครับไอ้ลิ้น
00:16:04 → 00:16:07 ตัวนี้มันตันมันจะทำให้ไอ้ตัวห้องบนซ้าย
00:16:07 → 00:16:11 เนี่ยมันโตขึ้นนะฮะโตขึ้นมากๆเลยนะพอมัน
00:16:12 → 00:16:15 โตแล้วมันเกิดอะไรขึ้นมันด้านหลังของไอ้
00:16:15 → 00:16:18 ไอ้ห้องเนี่ยมันก็คือหลอดลมมันก็ไปกดหลอด
00:16:18 → 00:16:20 ลมกดแล้วเกิดอะไร i นะบางคนไอได้นะครับ
00:16:21 → 00:16:23 เราก็เจอแบบนี้เหมือนกันนะฮะที่แบบหาอะไร
00:16:23 → 00:16:26 ไม่เจอเรามาเจอเฮ้ยห้องหัวไทรหัวใจห้อง
00:16:26 → 00:16:28 ให้ห้องข้างบนซ้ายมันโตจังเลยเฮ้ยนะครับ
00:16:28 → 00:16:30 แต่คนพวกนี้ก็มักจะมีอาการอื่นที่เราตรวจ
00:16:30 → 00:16:32 ร่างกายแล้วเจอก็คือไอ้ฟังแล้วเสียงหัวใจ
00:16:32 → 00:16:34 มันผิดปกตินะอะไรอย่างนี้เป็นต้นนะครับ
00:16:34 → 00:16:37 นอกเหนือจากนี้ยังมีโรคปอดแบบแปลกๆนะครับ
00:16:37 → 00:16:40 ที่มันสามารถทำให้เราเกิดการอายเรื้อรัง
00:16:40 → 00:16:42 ได้ซึ่งจริงๆผมเคยพูดไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
00:16:42 → 00:16:46 นะครับมันชื่อว่าโรคดิบเนี่ยนะครับ dip n
00:16:46 → 00:16:49 e c h นะครับถ้าใครสนใจก็ลองกลับไปค้น
00:16:49 → 00:16:52 โรคนี้ดูนะครับผมเคยทำเป็นคลิปไปเรียบ
00:16:52 → 00:16:53 ร้อยแล้วนะครับแต่ว่าคลิปนั้นก็แน่นอนว่า
00:16:53 → 00:16:56 มันนานแล้วก็อาจจะหายากนิดนึงนะครับก็คือ
00:16:56 → 00:16:59 เสิร์ชใส่คำว่า dip NEX แล้วก็ชื่อผม
00:16:59 → 00:17:01 เข้าไปมันก็จะขึ้นมาท่านก็ลองไปฟังราย
00:17:01 → 00:17:02 ละเอียดว่าเอ๊ะมันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
00:17:02 → 00:17:04 นะครับแล้วโลกนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่ามัน
00:17:04 → 00:17:07 วินิจฉัยยากมากๆถึงแม้ว่าจะอยู่ในมือหมอ
00:17:07 → 00:17:10 โรคปอดก็ตามนะครับเพราะนิสัยได้ยากมากนะ
00:17:10 → 00:17:14 ครับก็ลองไปดูนะฮะทีนี้เอ่อนอกเหนือจาก
00:17:14 → 00:17:17 นี้มันก็อันนี้คือน่าจะเป็นน่าจะเป็น
00:17:18 → 00:17:20 เรื่องของอ่าเหตุผลที่ทำให้เกิดการไอ
00:17:20 → 00:17:23 เรื้อรังได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะพอคิดออก
00:17:23 → 00:17:28 นอกเหนือจากนั้นอ่าไม่น่าจะมีอ้อเดี๋ยวนะ
00:17:28 → 00:19:12 มันมีอยู่โลกโลกหนึ่ง
00:19:12 → 00:19:14 รวมทั้งมันยังมีอีกอย่างนึงก็คือเรื่อง
00:19:14 → 00:19:17 ของระบบการทรงตัว westinura Alex เสียก็
00:19:17 → 00:19:20 คือมันไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนท่าทางของ
00:19:20 → 00:19:22 เราทำให้เรายิ่งเดินเซแล้วคนพวกนี้บางคน
00:19:22 → 00:19:26 มีอาการไอเรื้อรังได้นะครับทีนี้อาจจะมี
00:19:26 → 00:19:29 อาการไม่ครบทั้งหมดก็ได้นะเราพูดมาถึงตรง
00:19:29 → 00:19:31 นี้แล้วเนี่ยนะครับเราจะสังเกตได้ว่า
00:19:31 → 00:19:35 อาการไอเรื้อรังเนี่ยมันสุดยอดจากหลาก
00:19:35 → 00:19:38 หลายสาเหตุเลยนะครับสิ่งที่เราพอจะทำได้
00:19:38 → 00:19:41 ด้วยตัวเองนะครับอย่างแรกก็คือสังเกตสิ่ง
00:19:41 → 00:19:43 แวดล้อมก่อนว่ามีอะไรที่ไปกระตุ้นไหมนะ
00:19:43 → 00:19:46 ครับถ้าเราสูบบุหรี่สูบกัญชาสูบพอร์ชสูบ
00:19:46 → 00:19:47 อะไรสักอย่างที่มันเข้าไปในปอดเนี่ยไม่มี
00:19:47 → 00:19:49 ตัวไหนปลอดภัยสักตัวเลิกก่อนเลยนะครับ
00:19:49 → 00:19:52 อาการไอจะเริ่มดีขึ้นแต่มีข้อควรระวัง
00:19:52 → 00:19:54 อย่างหนึ่งซึ่งทุกคนจะต้องควรจะต้องรู้ก็
00:19:54 → 00:19:57 คือบางคนเนี่ยเลิกบุหรี่ใหม่ๆแล้วมาบอก
00:19:57 → 00:19:59 ว่าเนี่ยหมอเลิกแล้วทำไมเสมหะมันเยอะจัง
00:19:59 → 00:20:03 เลยทำไมมันอายจังแทนที่ตอนสูบบุหรี่ยัง
00:20:03 → 00:20:05 ไม่เห็นจะไอเลยทำไมตอนนี้มันไอจังอ่านี้
00:20:05 → 00:20:08 ต้องบอกก่อนนะครับว่าศาลในบุหรี่เนี่ยมัน
00:20:08 → 00:20:10 ไปหยุดยั้งการทำงานของ
00:20:10 → 00:20:14 ขนเซลล์ขนที่อยู่ในทางเดินหายใจของเรานะ
00:20:14 → 00:20:16 ครับซึ่งเซลล์ขนพวกเนี้ยมันจะพัดเอาเสมหะ
00:20:16 → 00:20:19 ออกตรงนี้ออกมาแล้วเอาไปทิ้งเมื่อมันหยุด
00:20:19 → 00:20:22 การทำงานทุกอย่างก็สะสมอยู่ในปอดแต่พอเรา
00:20:22 → 00:20:24 เอาบุหรี่ออกไปและ Excel พวกนี้มันเริ่ม
00:20:24 → 00:20:26 ทำงานใหม่แล้วมันก็ไอ้ขนไอ้ของที่มัน
00:20:26 → 00:20:28 เหลือๆอยู่ในปอดแล้วแหละคนๆขึ้นมาแล้วให้
00:20:28 → 00:20:31 เราไอออกมานั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเรา
00:20:31 → 00:20:33 ถึงไอบ่อยคือมันเอาของที่เป็นของเสียที่
00:20:33 → 00:20:35 ค้างอยู่ในบ่อเราอ้างออกมานั่นเองแล้วพอ
00:20:35 → 00:20:38 มันหมดปุ๊บอาการไอของเราก็จะดีขึ้นนะครับ
00:20:38 → 00:20:40 นะตรงนี้ต้องเป็นสิ่งที่ผมบอกไว้อย่างนึง
00:20:40 → 00:20:43 ไม่งั้นคนบางคนก็บอกว่าเฮ้ยเรากลับไปสูบ
00:20:43 → 00:20:45 บุหรี่ดีกว่ามันจะได้ไม่ไอไม่ถูกต้องนะ
00:20:45 → 00:20:48 ครับอ่าฉะนั้นเรื่องบุหรี่เรื่องของสิ่ง
00:20:48 → 00:20:50 แวดล้อมเรื่องของยานะครับเมื่อกี้ที่เรา
00:20:50 → 00:20:52 พูดไปเรื่องของยาต้องดูก่อนว่าเรากินยา
00:20:52 → 00:20:55 พวกนี้อยู่หรือเปล่าหยอดยาโรคต้อหินอะไร
00:20:55 → 00:20:56 พวกนี้หรือเปล่าต้องไปคุยกับหมอเขานะครับ
00:20:56 → 00:21:00 แล้วถ้าตรงนี้มันไม่ใช่ก็ต้องมาเจอโรคที่
00:21:00 → 00:21:02 เจอบ่อยๆคือโรคภูมิแพ้นะครับน้ำมูกไหลลง
00:21:02 → 00:21:05 คอรวมทั้งโรคกรดไหลย้อนถึงแม้ว่าจะไม่มี
00:21:05 → 00:21:07 อาการก็ตามนะครับและอีกอย่างหนึ่งคือโรค
00:21:07 → 00:21:10 หอบหืดถ้า 3 โรคนี้ไม่เจอแล้วเนี่ยเราก็
00:21:10 → 00:21:13 จะมีกระบวนการหาหลายๆอย่างนะครับเช่นเรา
00:21:13 → 00:21:15 ดูประวัติว่ามันจะมีการติดเชื้อในปอดเรา
00:21:15 → 00:21:16 หรือเปล่ามีสีในปอดมีอะไรอย่างนี้หรือ
00:21:16 → 00:21:19 เปล่ามีโรคพังผืดปอดโรคหลอดลมที่มันผิด
00:21:19 → 00:21:22 ปกติไหมนะครับการสำลักบ่อยๆเป็นไหมนะครับ
00:21:22 → 00:21:26 อ่าโรคแปลกๆพวกนี้เราก็จะไปหาเอาทีหลังที
00:21:26 → 00:21:28 นี้ถ้าเราหาโรคพวกนี้เจอแล้วเนี่ยเราก็จะ
00:21:28 → 00:21:31 ให้ยารักษาตามโรคเพราะว่าหลายคนจะมาถาม
00:21:31 → 00:21:33 ว่าเนี่ย I มาตั้งนานแล้วทำไมไม่หายกิน
00:21:33 → 00:21:36 อะไรให้หายได้นะครับต้องบอกก่อนเลยว่าถ้า
00:21:36 → 00:21:39 เราไม่รู้ว่าเราเป็นโรคอะไรเนี่ยมันกินยา
00:21:39 → 00:21:41 อะไรมันก็แก้ไขปลายเหตุและเผลอๆมันก็ไม่
00:21:41 → 00:21:44 หายไม่ได้ช่วยอะไรด้วยซ้ำไปนะครับดังนั้น
00:21:44 → 00:21:46 เนี่ยเราจำเป็นจะต้องให้ย้ายทุกโรคเช่น
00:21:46 → 00:21:49 เรามีแพ้ก็ได้ยาภูมิแพ้ถึงจะหายไอไม่กิน
00:21:49 → 00:21:52 ยาแก้ไอมันก็ไม่หายไอเป็นโรคหอบหืดก็ต้อง
00:21:52 → 00:21:54 พ่นยาที่ยายเข้าหลอดลมถึงจะหายไอกินยาแก้
00:21:54 → 00:21:58 ไอก็ไม่หายไอนะฮะโรคกรดไหลย้อนก็ต้อง
00:21:58 → 00:22:00 รักษากรดไหลย้อนกินยาแก้ไอก็ไม่หายไอเช่น
00:22:00 → 00:22:02 กันนะครับไม่ว่าท่านจะเปลี่ยนยาอะไรแค่
00:22:03 → 00:22:06 ไหนมันก็ไม่หายไออยู่ดีนะครับทีนี้สมมุติ
00:22:06 → 00:22:08 ว่าเราหามันทุกประการแล้วมันไม่ใช่แล้ว
00:22:08 → 00:22:11 มันไม่เจออะไรที่มันไอแน่ๆละอย่างกรดไหล
00:22:11 → 00:22:12 ย้อนเนี่ยถ้าเราให้มันชัวร์จริงๆเนี่ย
00:22:12 → 00:22:16 แล้วเราไม่แน่ใจก็จะมีการสอดอ่าสายอันนึง
00:22:16 → 00:22:19 ลงไปในจมูกเราเข้าไปถึงกระเพาะแล้วก็วัด
00:22:19 → 00:22:21 ระดับโปรดว่าให้มันมีย้อนขึ้นมาหรือเปล่า
00:22:21 → 00:22:23 ดังนั้นโดยใส่เองเนี่ยใส่สายคาวไว้แล้ว
00:22:23 → 00:22:25 กลับบ้านแล้ววันรุ่งขึ้นออกมาวัดดูว่าไอ้
00:22:25 → 00:22:27 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเนี่ยนะครับมีการไหล
00:22:27 → 00:22:28 ย้อนของกรดขึ้นมาหรือเปล่าอันนี้คือวิธี
00:22:28 → 00:22:31 ที่แน่นอนที่สุดในการวัดนะครับถ้าเราไม่
00:22:31 → 00:22:33 ได้ทำวิธีนี้เราบอกว่าเราไม่เป็นกรดไหล
00:22:33 → 00:22:35 ย้อนเราไม่มีความรู้สึกว่ากรดมันขึ้นมา
00:22:35 → 00:22:36 รวมทั้งเรากินยาไปแล้วเดือนนึงไม่เห็นดี
00:22:36 → 00:22:39 ขึ้นไม่ได้แปลว่าท่านไม่ได้เป็นกรดไหล
00:22:39 → 00:22:42 ย้อนนะครับต้องระวังให้ดีตรงนี้นะครับที
00:22:42 → 00:22:44 นี้สมมุติว่าเราหาทุกอย่างเราไม่เจอแล้ว
00:22:44 → 00:23:46 เฮ้ยแล้วทำไงดี
00:23:46 → 00:23:50 ตัวนี้วิธีพ่นนะครับผมบอกไว้ก่อนว่าถ้า
00:23:50 → 00:23:52 สำหรับหมอทั่วไปที่เข้ามาฟังเนี่ยในตอน
00:23:52 → 00:23:54 แรกผมผมเป็นหมอผู้ใหญ่ดังนั้นผมจะไม่รู้
00:23:54 → 00:23:57 โดสของเด็กนะครับบอกไว้ก่อนว่าโดสหมอผู้
00:23:57 → 00:23:58 ใหญ่ในทางปฏิบัติเนี่ยเราไม่ต้องคำนวณ
00:23:58 → 00:24:01 อะไรให้มันยุ่งยากวิธีใช้ก็คือใช้ 2%
00:24:01 → 00:24:04 ไลโดเคนนะครับไม่ต้องเอา adrenaline ใส่
00:24:04 → 00:24:06 เข้าไปในนั้นนะครับเอาออกเอาแบบไอ้ที่เรา
00:24:06 → 00:24:10 ใช้เย็บแผลนี่แหละ 2% LINE โอเคนะครับ
00:24:10 → 00:24:14 เริ่มต้นที่ประมาณ 1-2 ซีซีแล้วผสมน้ำ
00:24:14 → 00:24:16 เกลือให้มันครบ 5 cc สามารถพ่นแบบนี้ได้
00:24:16 → 00:24:18 วันละ 4 ครั้งนะครับ
00:24:18 → 00:24:21 แล้วพอผ่านไปสัก 2-3 อาทิตย์แล้วเนี่ยเรา
00:24:21 → 00:24:24 ค่อยๆเพิ่มขนาดเข้าไปมากที่สุดได้ก็คือ
00:24:24 → 00:24:30 ให้ 544 เต็มนะครับ 2 ไอ้ 2% เนี่ย 544
00:24:30 → 00:24:33 เต็มก็คือได้วันละ 100 mg ครั้งก็คือ 400
00:24:33 → 00:24:35 mg ต่อวันนะครับนั่นคือสูงที่สุดที่เรา
00:24:35 → 00:24:38 จะให้ได้ถ้ามันไม่ได้แล้วมันก็ต้องไปทำ
00:24:38 → 00:24:41 วิธีอื่นแล้วนะครับอ่าแต่ข้อควรระวังของ
00:24:41 → 00:24:43 คนที่ต้องพ่นเนี่ยโบราณโอเคขึ้นคือ
00:24:43 → 00:24:48 ควรจะมีก๊อกเกิลแบบแว่นว่าปิดตาไม่งั้นตา
00:24:48 → 00:24:50 มันช้าแล้วพอตามันชาเราไม่รู้สึกใช่ไหม
00:24:50 → 00:24:53 ครับเกิดไอ้นี่มันลอยเข้าตาแล้วตาเราชา
00:24:53 → 00:24:54 แล้วไม่รู้สึกอะไรเข้าตาเราไม่รู้อะไร
00:24:54 → 00:24:57 เงี้ยมันอันตรายได้แล้วเกิดเป็นแผลที่ตา
00:24:57 → 00:25:00 ได้โดยที่ไม่รู้ตัวนะครับแล้วเราก็อาจจะ
00:25:00 → 00:25:03 มีปัญหานอกเหนือจากไอก็มีปัญหาโรคตาขึ้น
00:25:03 → 00:25:04 ไปด้วยนะครับดังนั้นตรงนี้ต้องให้คนไข้
00:25:04 → 00:25:06 ใส่แว่นว่ายน้ำไม่ใช่แว่นธรรมดานะครับ
00:25:06 → 00:25:07 เพราะแว่นธรรมดามันก็รอดเข้าไปได้อยู่ดี
00:25:07 → 00:25:09 ต้องเป็นแว่นว่ายน้ำนะครับอันนี้สำคัญมาก
00:25:09 → 00:25:13 นะฮะนี่เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งและอันนี้ก็
00:25:13 → 00:25:16 สำคัญสำหรับคนไข้ถ้าสมมุติว่าใช้ยาและ
00:25:16 → 00:25:20 โบราณลายดอกเข็มแล้วมีอาการผิดปกติเช่นหู
00:25:20 → 00:25:23 วิ้งนะครับวิ่งๆคลื่นไส้อาเจียนนะครับรู้
00:25:23 → 00:25:25 สึกไม่ปกติหายใจแล้วเหนื่อยปากมันรู้สึก
00:25:25 → 00:25:28 ฟ้าๆพวกเนี้ยนะครับมือมือไอ้ตัวเล็บเรา
00:25:28 → 00:25:31 มันสีมันมันม่วงๆไปหาหมอเลยครับอย่าไป
00:25:31 → 00:25:33 อยู่กับที่เพราะว่ามันอาจจะเกิดปัญหา 2
00:25:33 → 00:25:36 อย่างด้วยกันอย่างแรกคือ dose มันสูงไปนะ
00:25:36 → 00:25:38 ครับถ้ามีวิ้งในหูเนี่ยมักจะเป็นตัวสูงไป
00:25:38 → 00:25:41 ละถ้ามันสูงไปมากๆแล้วเราไม่ไปหาหมอแล้ว
00:25:41 → 00:25:45 ปล่อยไว้เฉยๆเนี่ยบางคนชัดนะครับชักเลยนะ
00:25:45 → 00:25:46 ฮะ
00:25:46 → 00:25:50 ถ้าเป็นไลโดรเคนเนี่ยมันเกินถ้ามีหมอเข้า
00:25:50 → 00:25:52 มาฟังนะครับวิธีในการแก้ไขก็คือการให้
00:25:52 → 00:25:55 intral liptic นะครับ intra ritic ที่
00:25:55 → 00:25:56 เขาไว้ให้ tpn นั่นแหละครับให้ตัวนั้น
00:25:56 → 00:25:59 เข้าไปนะให้เข้าไปเยอะๆเลยนะครับ 144
00:25:59 → 00:26:01 เนี่ยมันไปช่วยจับไลโดรเคนพวกนี้นะครับ
00:26:01 → 00:26:03 สมัยก่อนผมไม่รู้ตัวนี้เพราะว่าผมเคยเป็น
00:26:03 → 00:26:05 นิสิตแพทย์แล้วก็ไม่รู้ว่ามันมียาแก้พิษ
00:26:05 → 00:26:07 เพราะรุ่นพี่ก็บอกต่อๆกันมาว่ามันไม่มี
00:26:07 → 00:26:10 ทางแก้มันไม่มียาแก้จริงๆมันมีครับแล้วผม
00:26:10 → 00:26:12 ก็มารู้ว่าทีหลังด้วยว่าหมอมันคือ intra
00:26:12 → 00:26:14 lipid นี่เองฉีดเข้าไป 100 ซีซีก็จะช่วย
00:26:14 → 00:26:17 ได้เหมือนกันนะครับอ่านั้นเรารู้ไว้นะ
00:26:17 → 00:26:20 ครับอันที่ 2 ที่ต้องรู้ก็คือภาวะ mach
00:26:21 → 00:26:24 Evo เนี่ยอ้าอันนี้สำคัญและคนที่ใช้ใน
00:26:24 → 00:26:27 โลเคนทุกคนจะต้องรู้ภาวนานี้มันคือการที่
00:26:27 → 00:26:30 ไอ้ทีมบุกโรบินของท่านเนี่ยมันถูกเปลี่ยน
00:26:30 → 00:26:33 แปลงไปนะครับแล้วทำให้ไม่สามารถที่จะนำ
00:26:33 → 00:26:36 ออกซิเจนได้ตามปกติแล้วคนพวกเนี้ยมันมี
00:26:36 → 00:26:39 วิธีพิสูจน์ง่ายๆอย่างนึงนะครับถ้าคนไข้
00:26:39 → 00:26:41 มีอาการนะครับเหนื่อยนะฮะแล้วรู้สึกมั่วๆ
00:26:41 → 00:26:44 ปากม่วงๆนะครับเล็บมันรู้สึกคล้ำๆเนี่ยฮะ
00:26:44 → 00:26:46 มีอาการเวียนหัวคลื่นไส้อาเจียนเวลาที่
00:26:46 → 00:26:49 เราไปจับออกซิเจนปลายนิ้วเนี่ยออกซิเจน
00:26:49 → 00:26:52 ที่ปลายนิ้วจะอยู่ที่ประมาณ 85% เลขอย่าง
00:26:52 → 00:26:55 นี้เป๊ะเลย 85% แล้วถ้าเราเจาะเลือดออกมา
00:26:55 → 00:26:57 แล้วเราดูดเลือดแทนที่เราจะได้เลือดสีแดง
00:26:57 → 00:27:00 อ่ะมันจะเลือดสีออกน้ำตาลน้ำตาล
00:27:00 → 00:27:03 เลือกสีน้ำตาลน้ำตาลและถ้าเราเป็นแบบนั้น
00:27:03 → 00:27:06 เนี่ยถ้าเราสงสัยไว้เลยว่าคนนี้เป็นเมีย
00:27:06 → 00:27:08 วิธี test อีกอย่างหนึ่งหรือทดสอบอีก
00:27:08 → 00:27:10 อย่างหนึ่งก็คือลองเอาเนี่ยไอ้เลือดที่
00:27:10 → 00:27:13 เราเจาะมันไม่ได้แก้หยดลงไปในภาคกสัก 2-3
00:27:13 → 00:27:17 หยดแล้วเอาออกซิเจนมาเป่าแต่มันจะเปลี่ยน
00:27:17 → 00:27:19 สีจากน้ำตาลกลายเป็นแดงได้เลยอ่าอันนี้
00:27:19 → 00:27:22 เป็นวิธีในการเล่นกลนะครับสมัยก่อนผมก็
00:27:22 → 00:27:24 คือผมเคยใช้วิธีนี้จริงๆคือสมัยผมเป็น
00:27:24 → 00:27:27 Follow แล้วมีรุ่นน้องเนี่ยเขาอยู่โรง
00:27:27 → 00:27:29 พยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลเขาโทรมาปรึกษาผม
00:27:29 → 00:27:32 ว่าเอ้ยน่าจะเป็นเม็ดมีเมียแล้วแต่ว่าการ
00:27:32 → 00:27:34 ส่งตรวจเม็ดทีโบเมียมันส่งยากแล้วมันไม่
00:27:34 → 00:27:36 ได้ส่งแล้วมันได้ผลทันทีนะครับผมก็เลยบอก
00:27:36 → 00:27:40 ว่าเฮ้ยลองไอ้น้องลองหยดไม่ได้พักก่อน
00:27:40 → 00:27:42 แล้วเอาไอ้ไอ้เนี่ยเป่าซินะแล้วมันเป็น
00:27:42 → 00:27:44 ยังไงบ้างน้องบอกว่าเฮ้ยมันกลายเป็นสีแดง
00:27:44 → 00:27:47 เลยพี่อย่างเงี้ยผมก็บอกว่าโอเคเป็นละนะ
00:27:47 → 00:27:50 ครับ Made inia วิธีแก้ไขก็ไม่ได้ยากให้
00:27:50 → 00:27:52 methyline Blue เข้าไปนะครับแล้วอาการ
00:27:52 → 00:27:55 มันก็จะค่อยๆดีขึ้นนะส่วนรายละเอียดในวัน
00:27:55 → 00:27:57 นี้ผมก็ยังไม่เล่าละกันว่าต้องยังไงไม่
00:27:57 → 00:27:59 ทันเรนโบว์ยังไงอะไรบ้างครับแต่ว่า
00:27:59 → 00:28:00 methyline room มีข้อควรระวังในคนที่
00:28:00 → 00:28:03 เป็น G6PD ให้ไม่ได้นะครับไม่งั้นแดงแต่ง
00:28:03 → 00:28:06 นะครับอ่าตรงนี้ก็ต้องระวังถ้าให้อะไรไม่
00:28:06 → 00:28:09 ได้จริงๆก็คือให้ออกซิเจนไปเดี๋ยวสักพัก
00:28:09 → 00:28:11 มันจะค่อยๆดีขึ้นเองนะครับหรือจะให้ intra
00:28:11 → 00:28:13 libit ร่วมด้วยไปจับไอ้ตัวอะไรโดดเด่น
00:28:13 → 00:28:15 ทิ้งก็อาจจะเป็นการรักษาที่นอกเหนือตำรา
00:28:15 → 00:28:18 แต่อาจจะพอทำได้อนุโลมทำได้บ้างนะครับ
00:28:18 → 00:28:21 โอเควันนี้ก็เล่ามาซะยาวเลยเรื่องของการ
00:28:21 → 00:28:23 ไอเรื้อรังนะครับดังนั้นโดยสรุปแล้วนะ
00:28:23 → 00:28:26 ครับประการแรกให้เราดูที่สิ่งแวดล้อมนะ
00:28:26 → 00:28:29 ครับการสำลักการสูตรฟันต่างๆ PM 2.5
00:28:29 → 00:28:31 บุหรี่นะครับต้องหลีกเลี่ยงให้หมดนะครับ
00:28:31 → 00:28:34 รวมทั้งคนที่รับประทานยาบางชนิดอยู่นะ
00:28:34 → 00:28:37 ครับอ่ายา acei ซึ่งเป็นยาลดความดันนะฮะ
00:28:37 → 00:28:41 หรือว่ายาลดยาที่ทำให้มวลกระดูกเพิ่มขึ้น
00:28:41 → 00:28:43 หรือยาหยอดตาโรคต้อหินยาแคลเซียมชนก
00:28:43 → 00:28:45 ล็อกเกอร์พวกนี้เป็นต้นถ้าหาไม่เจอแล้วก็
00:28:45 → 00:28:48 อันนี้ต้องไปปรึกษาคุณหมอนะครับอ่าเราไม่
00:28:48 → 00:28:51 ได้ใช้ยากฎการไอแต่เราต้องไปรักษาที่ต้น
00:28:51 → 00:28:54 ตอของสาเหตุที่เราให้เรามีอาการไอ
00:28:54 → 00:28:56 เรื้อรังแบบนั้นนะครับโอเควันนี้ก็เท่า
00:28:56 → 00:28:58 นี้นะครับใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามมานะครับ
00:28:58 → 00:29:01 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ